

อู่ในเครือแอกซ่าประกันภัย
ประกันรถยนต์แต่ละประเภทคุ้มครองอะไร
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
หากต้องการใช้บริการของอู่ในเครือแอกซ่าประกันรถยนต์ จะต้องทำอย่างไรบ้าง?
เบื้องต้นสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 02-118-8000 ต่อ 8108, 8110 หรือติดต่อแอกซ่าฮอตไลน์ได้ที่เบอร์ 0-2118-8111 กด 4 และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมทั้งเช็กข้อมูลได้โดยการ ค้นหาอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัยได้ที่เว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัย ทั้งอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัย กรุงเทพ รวมไปถึงอู่ในเครือ AXA ประกันภัยประกันภัย ต่างจังหวัด อีกทั้งยังสามารถเลือกค้นหาเฉพาะอู่ห้าง ร้านซ่อมรถใหญ่ ร้านกระจกรถยนต์ หรือร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ได้อีกด้วย
เบื้องต้นสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 02-118-8000 ต่อ 8108, 8110 หรือติดต่อแอกซ่าฮอตไลน์ได้ที่เบอร์ 0-2118-8111 กด 4 และสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมทั้งเช็กข้อมูลได้โดยการค้นหาอู่ในเครือแอกซ่าประกันรถยนต์ได้ที่เว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัย ทั้งอู่ในเครือแอกซ่าประกันรถยนต์ กรุงเทพ รวมไปถึงอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัยต่างจังหวัด อีกทั้งยังสามารถเลือกค้นหาเฉพาะอู่ห้าง ร้านซ่อมรถใหญ่ ร้านกระจกรถยนต์ หรือร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ได้อีกด้วย
และสำหรับลูกค้าของแอกซ่าประกันภัยที่มีรถยนต์ไฟฟ้า EV เช่น TESLA, BYD, ORA Good Cat หรือ NETA ก็สามารถค้นหาศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าอู่ AXA ทั้ง 8 แห่งได้ที่ รายชื่อศูนย์ซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า EV AXA สำหรับลูกค้าแอกซ่าประกันภัย จากเว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัย
บริการของอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัยมีอะไรบ้าง?
ทางบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวโครงการ AXA Preferred Garage หรือ “อู่ระดับคุณภาพ” เพื่อให้บริการลูกค้าประกันภัยรถยนต์ของแอกซ่าโดยเฉพาะ โดยจะมีสิทธิประโยชน์ ณ อู่รถที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 18 แห่ง ดังนี้
- มีบริการส่งรถภายในรัศมี 10 กิโลเมตร
- มีบริการซ่อมรถทันทีโดยที่ไม่ต้องรอคิว
- มีบริการล้างทำความสะอาดรถยนต์ก่อนทำการส่งมอบรถให้กับลูกค้า
- รับประกันคุณภาพการซ่อมภายในระยะเวลา 1 ปีหลังจากที่ซ่อม
- รับประกันงานซ่อมตัวถังด้วยสีคุณภาพสูง
หากจะต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล แบบนี้ต้องสำรองจ่ายไปก่อนไหม?
สำหรับในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องมีการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แบบนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องสำรองเงินสดจ่ายไปก่อน แต่เพียงแค่แสดงบัตร AXA Healthcare card หรือ AXA Hospicare พร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนต่อทางโรงพยาบาลในเครือของแอกซ่าประกันภัยได้เลย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลในเครือข่ายของแอกซ่าประกันภัย จากเว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัย
เอกสารเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ที่จะต้องยื่นให้กับทางอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัยมีอะไรบ้าง?
สำหรับลูกค้าประกันภัยรถยนต์ของแอกซ่าที่มีการเข้ารับบริการในอู่แอกซ่า สามารถแจ้งเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ที่สายด่วน 0-2118-8111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งเคลมออนไลน์สำหรับความเสียหายเล็กน้อยได้โดยการ กรอกแบบฟอร์มแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ AXA ผ่านทางเว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัยส่วนการเตรียมเอกสารสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมนั้นจะใช้เอกสาร ดังนี้
- ใบแจ้งความเสียหาย สำหรับในกรณีที่มีพนักงานออกสำรวจภัย
- แบบฟอร์มการแจ้งเคลมประกันภัยรถยนต์ สำหรับในกรณีที่ไม่มีพนักงานออกสำรวจภัย
- สำเนารายการจดทะเบียนรถ
- สำเนาใบขับขี่ของผู้ขับขี่ตามที่แจ้งเกิดเหตุ
- ชุดหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจ และของผู้รับมอบอำนาจ สำหรับในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน
- เอกสารอื่น ๆ เช่น ในกรณีที่บริษัทมีการร้องขอเอกสารเพิ่มเติม เป็นต้น
วิธีการชำระเบี้ยประกันภัยของ AXA ประกันภัย
เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการชำระเงิน ผู้ซื้อประกันภัยสามารถชำระเบี้ยประกันเข้าบัญชี บมจ.แอกซ่าประกันภัย ได้ถึง 4 ช่องทาง ดังนี้
1. ผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร
- ธนาคารไทยพาณิชย์
ทางผู้ชำระเงินจะต้องกรอกเลขที่กรมธรรม์ทั้ง REF NO.1 และ NO.2 - ธนาคารกรุงเทพ
ทางผู้ชำระเงินจะต้องกรอกเลขที่กรมธรรม์ทั้ง REF NO.1 และ NO.2 - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ทางผู้ชำระเงินจะต้องกรอกเลขที่กรมธรรม์ และชื่อของผู้เอาประกันภัย - ธนาคารยูโอบี
ทางผู้ชำระเงินจะต้องกรอกเลขที่กรมธรรม์ ชื่อของผู้เอาประกันภัย และหมายเลขโทรศัพท์ - ธนาคารกสิกรไทย
ทางผู้ชำระเงินจะต้องกรอกเลขที่กรมธรรม์ทั้ง REF NO.1 และ NO.2
2. ผ่านบัตรเครดิต
ทางผู้ชำระเงินสามารถดาวน์โหลดเอกสารเพื่อนำมากรอกข้อมูลได้จาก แบบฟอร์มชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต AXA จากเว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัย โดยจะต้องมีการแจ้งชำระเงินมายังฝ่าย Credit Control ของบมจ.แอกซ่าประกันภัย หรือโทรติดต่อได้ที่เบอร์ 0-2118-8475 โทรสาร 0-2679-8695 หรืออีเมล [email protected] โดยจะไม่มีการชาร์จค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
3. ชำระเป็นเงินสด ทางตู้ ATM หรือทางเคาน์เตอร์ธนาคาร
โดยหลังจากที่ชำระเบี้ยประกันไปเรียบร้อยแล้ว ทางผู้ชำระเงินจะต้องแจ้งหลักฐานในการโอนเงินมายังฝ่าย Credit Control ของบมจ.แอกซ่าประกันภัย ได้ที่เบอร์ 0-2118-8475 หรือโทรสาร 0-2679-8695 หรืออีเมล [email protected]
- ธนาคารไทยพาณิชย์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 023-2-63113-0
สาขาลุมพินี
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย - ธนาคารกรุงเทพ
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 124-0-85668-0
สาขาลุมพินี
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย - ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 256-1-06574-0
สาขาลุมพินี
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย - ธนาคารยูโอบี
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 747-1-08551-4
สาขาสาทร
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย - ธนาคารกสิกรไทย
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 038-2-54530-3
สาขาสาทร
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย - ธนาคารธนชาติ
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 005-2-00699-7
สาขาพระราม 4
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย - ธนาคารทิสโก้
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 1-212-000020-0
สาขาสาทร
ชื่อบัญชี บมจ. แอกซ่าประกันภัย
4. การผ่อนชำระ 0% ผ่านบัตรเครดิต
จะสามารถใช้ผ่อนชำระแบบ 0% นาน 3 เดือน ได้เฉพาะในกรณีของประกันภัยรถยนต์สมาร์ทไดร์ฟ 5 (เป็นประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ และ 3+) เท่านั้น โดยการดาวน์โหลดเอกสารเพื่อนำมากรอกข้อมูลได้จาก แบบฟอร์มชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต Citibank จากเว็บไซต์ของแอกซ่าประกันภัย และหลังจากนั้นให้แจ้งการชำระเงินมายังฝ่าย Credit Control ของบมจ.แอกซ่าประกันภัย พร้อมแนบสำเนาบัตรเครดิต และบัตรประจำตัวประชาชนที่มีการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง “ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต” มาที่อีเมล [email protected] หรือโทร 0-2118-8475 โทรสาร 0-2679-8695
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการให้บริการของอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัยมีอะไรบ้าง?
โดยปกติแล้วการใช้บริการของอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัยนั้นจะอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยอยู่แล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั้นจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดบางอย่างของเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย ยกตัวอย่างเช่น
- ค่าใช้จ่ายส่วนเกินในกรณีที่มีการซ่อมรถที่นอกเหนือไปจากการให้บริการของอู่ในเครือแอกซ่าประกันภัย
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายในเรื่องของที่พัก ถ้าหากว่ารถยนต์เกิดเสียอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเกินกว่า 100 กิโลเมตร และจะต้องใช้ระยะเวลาในการซ่อมที่มากกว่า 24 ชั่วโมง ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ (โดยจะมีการจ่ายให้ตามจริงไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี และจ่ายสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาทต่อครั้ง)
- บริการปลดล็อกประตูรถยนต์ (โดยจะมีการจ่ายให้ตามจริงไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี และจ่ายสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง)
- บริการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปแก้ไขรถยนต์ ณ ที่เกิดเหตุ (โดยจะมีการจ่ายให้ตามจริงแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อปี และจ่ายสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง)