ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2 เหมาะกับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 500 c.c. หรือเป็นรถจักยานยนต์ที่อายุไม่เกิน 5 ปี หรือเหมาะสำหรับผู้ที่ชำนาญในการขับขี่ โดยผู้ทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2 จะได้ราคาเบี้ยประกันที่ถูกลงเมื่อเทียบกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 แต่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในประกันรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันที่ตั้งไว้ บางบริษัทฯอนุโลมได้ แต่ต้องไม่ใช่การตกแต่งผิดกฎหมายและผู้ทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2 จะต้องแจ้งกับทางบริษัทฯก่อนการทำประกันเสมอ

หากไม่มั่นใจว่ารถจักรยานยนต์สามารถทำประกันได้หรือไม่ เบื้องต้นผู้ทำประกันสามารถปรึกษากับตัวแทนโบรกเกอร์ประกัน อย่าง เอเชีย ไดเร๊ค ได้เลย!

เบื้องต้นแล้ว จะต้องใช้เอกสารดังต่อไปนี้

• เล่มทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ (ได้ทั้งฉบับจริงและสำเนา)
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ (ได้ทั้งฉบับจริงและสำเนา)
• สำเนากรมธรรม์ประกันภัย หรือ พ.ร.บ.
• ใบเคลมหรือใบรับรองความเสียหายที่บริษัทประกันออกให้
• ภาพถ่ายความเสียหาย

โดยบริษัทประกันฯบางแห่ง อาจขอเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น ใบรับรองแพทย์, ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล, ใบรับรองในกรณีที่เกิดทุพพลภาพหรือเสียชีวิต เป็นต้น ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและกรมธรรม์ต่างๆ ที่ทางบริษัทฯ ได้กำหนดเอาไว้

ดังนั้น เพื่อความรวดเร็วในการเคลมประกันรถมอเตอร์ไซค์ ควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่ให้ครบถ้วนถึงเอกสารที่ทางบริษัทฯต้องการให้ครบถ้วนก่อนเสมอ

กรณีขับรถจักรยานยนต์ล้มโดยไม่มีคู่กรณี หรือขับรถเสียหลักล้มเอง จะสามารถเบิกเคลบมกับทาง พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ได้ เป็นค่าเสียหายเบื้องต้น เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ค่าชดเชยในกรณีเสียชีวิต ซึ่งทางบริษัทประกันที่เราทำ พ.ร.บ. ไว้ จะเป็นผู้ชดเชยค่าสินไหมทดแทนให้ภายใน 7 วัน

แต่ทั้งนี้หากคุณทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 คุณจะได้คามคุ้มครองค่าซ่อมรถ เพราะประกันชั้นดังกล่าวจะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีนั่นเอง

จริงอยู่ที่การทำประกันรถมอเตอร์ไซค์คือการทำเพื่อเพิ่มความคุ้มครอง เสริมความปลอดภัยให้กับการขับขี่บนท้องถนน แต่ก้มีบางกรณีเช่นกัน ที่ทางประกันรถมอเตอร์ไซค์จะไม่รับคุ้มครอง ดังนี้ 

• กรณีเมาแล้วขับ
• กรณีที่นำรถจักรยานยนต์ไปแข่งขับความเร็ว
• กรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ได้ทำใบขับขี่
• กรณีที่นำรถจักรยานยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เช่น นำไปรถไปก่อเหตุชิงทรัพย์ หรือขนย้ายยาเสพติด
• กรณีที่รถจักรยานยนต์ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประเทศไทย เช่น การนำรถจักรยานยนต์ไปขับขี่ออกทริปที่ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเกิดอุบัติเหตุ
• กรณีนำรถจักรยานยนต์ไปใช้งานนอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้ เช่น นำรถส่วนบุคคลไปใช้รับจ้าง หรือใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่หากอยากได้ความคุ้มครองควรเปลีย่นไปทำประกันรถมอเตอร์ไซค์เชิงพาณิชย์แทน
• กรณีเกิดสงคราม ปรมาณู หรือกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู

โดยสรุปแล้ว ประกันรถมอเตอร์ไซค์ไม่ว่าชั้นความคุ้มครองไหน หรือ พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ ใด ก็จะไม่คุ้มครองหากผู้ขับขี่นำรถจักรยานยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ออกนอกพื้นที่ประเทศไทย และเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างสงคราม เป็นต้น