ขับขี่ปลอดภัย

5 ความหมายของสัญญาณเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ที่เราควรรู้ไว้

ผู้เขียน : korkong

Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ

Published March 07, 2023
ความหมายของ 5 สัญลักษณ์ที่ปรากฎขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์

ทุกวันในการใช้รถ สิ่งแรกที่เห็นเป็นอันดับแรกคือ หน้าปัด ใช่ไหมคะ แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าหน้าปัดไว้ดูแค่ ความเร็ว, น้ำมัน เท่านั้นเอง จริงๆแล้วบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วหน้าปัดรถของเรามีไฟแจ้งเตือนสามารถบอกได้ว่ารถของเราประสบปัญหาอะไรอยู่ เพราะสัญลักษณ์บนหน้าปัดรถแต่ละตัวนั้นมีความหมายที่แตกต่างกันไป วันนี้เราค่อยๆมาทำความรู้จักกันทีละตัวเลยค่ะ

สัญญาณเตือน บนคอนโซลจะแบ่งออกเป็น 3 สี

สีเขียว 

หมายถึงเรากำลังใช้งานฟังก์ชั่นใดของรถอยู่ เช่น เปิดไฟตัดหมอก

สีเหลือง 

หมายถึงมีอะไรบางอย่างในรถที่กำลังพร่องหรือใกล้จะหมด แต่ยังคงทำงานได้อยู่ ควรรีบตรวจสอบ

สีแดง 

หมายถึงส่วนหนึ่งส่วนใดนั้นกำลังมีปัญหาอย่างรุนแรง ควรรีบจอดรถและดับเครื่องยนต์ในทันที พร้อมติดต่อช่างโดยด่วน

สัญญาณเตือน ที่คนใช้รถต้องใส่ใจและจดจำมีอยู่ด้วยกัน 5 สัญลักษณ์

 

แบตเตอรี่

หลายคนยังเข้าใจผิดว่า อาการแบตเตอรี่เสื่อม จะปรากฏตัวสัญลักษณ์สีแดงนี้ขึ้นมา จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดค่ะ เพราะสัญลักษณ์นี้จะแสดงขึ้นมา ก็ต่อเมื่อการทำงานของไดร์ชาร์จมีความผิดปกติ ไม่จ่ายไฟเข้าไปเก็บที่แบตเตอรี่หรือไม่มีการจ่ายไฟเข้าใช้งานในระบบรถยนต์ เมื่อเห็นสัญลักษ์ไฟตัวนี้แสดงขึ้นมา แสดงว่าเราต้องนำรถเข้าศูนย์เพื่อซ่อมตัวไดร์ชาร์จนะคะ

 

น้ำมันเครื่อง

สัญญาณเตือนรูปกาน้ำมันเครื่องขึ้นโชว์ สตาร์ทรถแล้วไฟเตือนไม่ดับ หรือดับๆ ติดๆ นั่นจะแสดงขึ้นมาเมื่อระดับน้ำมันเครื่องต่ำมาก ให้รีบตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องแล้วเติมให้อยู่ในระดับปกติทันที แต่ก็สามารถมีโอกาสเป็นอาการอื่นได้ เช่น ถ้าเช็คแล้วน้ำมันเครื่องไม่ขาด แต่สัญลักษณ์แสดงขึ้นมา ถ้าแบบนี้ก็เป็นไปได้ว่า ตัวปั๊มน้ำมันเครื่องอาจมีปัญหา ไม่มีแรงดันน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงตามจุดต่างๆ ก็อาจทำให้มีการแจ้งเตือนได้เช่นกันนะคะ

ABS

ไฟเตือนรูป ABS ไฟนี้ก็ควรจะดับเมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว ถ้าไม่ดับแสดงว่า ระบบป้องกัน

ล้อล็อกตายขณะเบรกของคุณมีปัญหา สัญลักษณ์นี้ก็จะแสดงขึ้นมา ให้นำรถเข้าตรวจสอบกับศูนย์บริการหรืออู่ แต่ระบบเบรกยังสามารถใช้งานได้ปกติอยู่ เพียงแต่เมื่อมีการเบรกกะทันหัน ระบบ ABS อาจจะไม่ทำงานเท่านั้นเองค่ะ แต่ต้องจำไว้ว่า “ห้ามเบรกกะทันหันเด็ดขาด”

 

เบรก

สัญลักษณ์เบรกนี้ ส่วนใหญ่จะขึ้นใน 2 กรณีคือ เมื่อมีการดึงเบรกมือ หรือลดเบรกมือยังไม่สุด สัญลักษณ์นี้ก็จะติดขึ้นมา แต่ถ้าลดเบรกมือแล้วยังไม่ดับ คงต้องตรวจสอบระบบเบรก ซึ่งอย่างแรกที่ต้องดูคือระดับน้ำมันเบรก เพราะส่วนใหญ่แล้วสัญลักษณ์จะแจ้งเมื่อน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับปกติ แต่สำหรับบางรุ่นจะแยกกันระหว่างระบบเบรกกับเบรกมือไว้แยกจากกัน โดยระบบเบรกจะเป็นเครื่องหมายตกใจ ส่วนเบรกมือ จะเป็นตัว P ค่ะ

 

เครื่องยนต์

ไฟรูปเครื่องยนต์ สำคัญที่สุด เพราะถ้าเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้ว ไฟรูปนี้ไม่ดับ แสดงว่าเครื่องยนต์ของคุณอาจมีปัญหา เพราะตัวนี้ตัวเดียวอาจแจ้งความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ค่าอ็อกซิเจนผิดปกติ, สายพานเกินระยะกำหนด, ตัว ECU มีปัญหา ในส่วนมากรถที่มีไฟเครื่องยนต์ติดขึ้นมา จะขับได้อีกระยะหนึ่งเท่านั้น และบางทีอาจไม่สามารถขับได้เกินกว่า 40-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เสียหายไปมากกว่าเดิมค่ะ

 

ระบบเตือนความร้อน

สัญญลักษณ์รูปเทอร์โมมิตเตอร์สีแดง เตือนให้รู้ว่าขณะนี้เครื่องยนต์ร้อนผิดปกติ สาเหตุที่ทำให้ความร้อนขึ้นสูงเป็นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นท่อยางน้ำรั่ว หม้อน้ำรั่ว พัดลมระบาย ความร้อนไม่ทำงาน แต่อย่างไรก็ตามให้รีบจอดรถดับเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อระบายความร้อน และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในทันที ที่สำคัญไม่ควรฝืนขับต่อไปเพราะจะทำให้ฝาสูบโก่ง ต้องเรียกรถมาลากไปเท่านั้น

สัญลักษณ์ไฟเตือนนี้ เป็นไฟเตือนเบื้องต้นที่รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีอยู่ แต่สำหรับบางรุ่น อาจจะมีแตกต่างกันไป ดังนั้นการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นด้วยการอ่านคู่มือประจำรถเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น เราสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ก่อนจะนำรถเข้าซ่อมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้นได้ค่ะ

แต่บางครั้งเราไม่อาจหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ ถ้าเกิดรถเสียระหว่างทางแล้วไม่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้เอง คงต้องพึ่งการช่วยเหลือจากบริการของประกันรถยนต์ โดยเฉพาะบริการฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นแปลว่าถ้าเรามีประกันที่ดูแลอย่างครอบคลุม ก็จะสามารถเดินทางได้อย่างอุ่นใจตลอดเวลานั่นเอง สนใจทำประกันรถยนต์ที่คุณเองก็เลือกได้ ว่าต้องการการคุ้มครองด้านไหน สามารถเข้าไปเปรียบเทียบ พร้อมรับขอเสนอสุดพิเศษเฉพาะคุณ ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 70% ได้ที่ https://asiadirect.co.th/ หรือ 02-089-200

บทความขับขี่ปลอดภัย
Rabbit Care Blog Image 1055

ขับขี่ปลอดภัย

อาการยางบวมเกิดจากอะไร สามารถขับต่อได้ไหม และต้องแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

อาการยางบวมเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงยางมากหากเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ดังนั้นใครที่เดินทางข้ามจังหวัด หรือมีการใช้งานรถยนต์บ่อยครั้ง
คะน้าใบเขียว
clock icon06/02/2024
Rabbit Care Blog Image 1040

ขับขี่ปลอดภัย

รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับรถป้ายแดงอยู่ด้วย

เวลาออกรถใหม่มาใครก็เรียกรถป้ายแดงดันทั่วประเทศ แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้งานรถยนต์ที่มีป้ายแดงติดอยู่ มีข้อกำหนดด้านกฎหมายที่หลากหลายมากกว่าที่คุณคิด
คะน้าใบเขียว
clock icon23/01/2024
Rabbit Care Blog Image 1013

ขับขี่ปลอดภัย

พรบ รถ คืออะไร? มีความคุ้มครองแตกต่างจากประกันรถยนต์มากน้อยแค่ไหน

นอกเหนือจากประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่เราเลือกทำได้เองแล้ว ยังมีประกัน พรบ. รถ ที่กฎหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องมี
คะน้าใบเขียว
clock icon02/01/2024