ขับขี่ปลอดภัย

6 ขั้นตอนการดูแลรถยนต์หลังจากไปเที่ยววันหยุดยาว

ผู้เขียน : korkong

Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ

Published February 16, 2023
ขั้นตอนการดูแลรถยนต์หลังเที่ยวหยุดยาว

การเดินทางไกลสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ถือเป็นเรื่องปกติ การขับรถในระยะทางไกลกว่าปกติในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทางผักผ่อนในวันหยุดยาว หรือการเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด แต่เมื่อเสร็จสิ้นจากการเดินทางควรมีวิธีดูแลรักษารถยนต์ของเพื่อน ๆ ดังนี้

1. ล้างทำความสะอาด 

เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำเพราะตลอดการเดินทางรถยนต์ของคุณจะเจอฝุ่นละอองจำนวนมาก หรือขี้นกหรือตัวแมลงต่าง ๆ ที่ติดตามกระจกที่พบเจอระหว่างการเดินทาง และทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร เก็บขยะต่าง ๆ เศษอาหาร เศษขนมตกหล่นอยู่ภายในรถ ให้สะอาดเรียบร้อย เพราะสาเหตุเหล่านี้จะทำให้ภายในรถมีเชื้อโรค มีกลิ่นเหม็น รวมถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดอย่างการที่รถต้องกลายเป็นรังมด เนื่องจากเศษอาหารหรือขยะที่เก็บไปไม่หมดนั่นเอง 

2. ตรวจสภาพลมยาง

ให้อยู่ในระดับ 32-35 psi เพราะตลอดการเดินทางต้องเจอปัญหาเรื่องผิวถนนที่ขรุขระหรือความร้อนสะสมจากการวิ่งระยะไกล อาจทำให้ยางเกิดความเสียหาย รวมถึงการตรวจดูการรั่วซึมหรือมีสิ่งแปลกปลอมที่เป็นสาเหตุของการรั่วของยางได้ ในปัจจุบันมีการตรวจสอบลมยางที่ง่ายดายแม้อยู่ที่บ้านก็ทำได้เอง ผ่านเครื่องเติมลมรถยนต์แบบใช้ไฟฟ้าพกพาขนาดเล็ก หรือขับรถออกไปปั้มน้ำมันใกล้บ้านก็ได้ครบทั้งเติม และตรวจสอบได้เลย

3. ตรวจเช็คภายในห้องเครื่อง 

คือการตรวจเช็คน้ำมันเครื่องว่ามีระดับที่ลดมากน้อยแค่ไหน ถึงแม้อาจจะเปลี่ยนถ่ายก่อนการเดินทางแล้วก็ตาม หรือการเช็คน้ำปัดกระจกรถยนต์ เผื่อเอาไว้ในเวลาที่ต้องเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องล้างกระจกให้สะอาดอย่างเร่งด่วน วิสัยทัศน์การมองทางของเราจะได้ชัดตลอดการเดินทาง 

4. ตรวจเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำ 

ว่ามีระดับน้ำลดลงหรือไม่ เพราะการเดินทางไกล เหยียบคันเร่งยาว ๆ  หรือใช้รอบสูงบ่อย ๆ ทำให้เราเผาผลาญการทำงานของเครื่องยนต์มากกว่าปกติ ซึ่งมันอาจทำให้น้ำ และของเหลวต่าง ๆ ภายในระบบระเหย หากพบว่าระดับน้ำหล่อเย็นลดลง หรือดูเหมือนจะเป็นสนิม ควรไปที่ศูนย์รถยนต์เพื่อให้ช่วยเติม

5. ตรวจเช็คไส้กรองอากาศ 

ให้มีความสะอาดหรือหากพบว่ามีฝุ่นที่สามารถทำความสะอาดได้ควรทำความสะอาดโดยเป่าฝุ่น หรือหากพบว่ามีความสกปรกจนเกินไปควรเปลี่ยนใหม่ได้ทันที ปกติแล้วทุก 10,000 กิโลเมตรสามารถถอดออกมาเป่าฝุ่นเพื่อทำความสะอาดได้ แต่เมื่อครบ 20,000 กิโลเมตรถือเป็นช่วงที่ควรเปลี่ยนอันใหม่ได้แล้ว

6. ตรวจเช็คระบบไฟ 

ว่ายังคงทำงานได้ดีอยู่หรือไม่ หรือระบบไฟเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาขาดหรือไม่ หรือไฟสูงต่ำทำงานได้ปกติหรือไม่ หากมีส่วนใดชำรุดให้รีบเปลี่ยนทันทีเพราะระบบสัญญาณไฟถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการขับรถทางไกล

เพียงแค่ 6 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปตรวจเช็ครถยนต์ เตรียมพร้อมให้รถของเรามีประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครั้งต่อไป และทางที่ดี เพื่อให้เราสามารถเดินทางอย่างปลอดภัยหายห่วง ลองเพิ่มประกันรถยนต์ที่ช่วยดูแลคุ้มครองเพิ่มเข้าไปอีกสักหน่อย จะได้อุ่นใจยิ่งขึ้น แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าต้องเลือกอย่างไร สามารถติดต่อหาเอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์ ผ่านเว็บไซต์ https://asiadirect.co.th/ หรือโทรติดต่อ 02-089-2000

บทความขับขี่ปลอดภัย
Rabbit Care Blog Image 1055

ขับขี่ปลอดภัย

อาการยางบวมเกิดจากอะไร สามารถขับต่อได้ไหม และต้องแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

อาการยางบวมเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงยางมากหากเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ดังนั้นใครที่เดินทางข้ามจังหวัด หรือมีการใช้งานรถยนต์บ่อยครั้ง
คะน้าใบเขียว
clock icon06/02/2024
Rabbit Care Blog Image 1040

ขับขี่ปลอดภัย

รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับรถป้ายแดงอยู่ด้วย

เวลาออกรถใหม่มาใครก็เรียกรถป้ายแดงดันทั่วประเทศ แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้งานรถยนต์ที่มีป้ายแดงติดอยู่ มีข้อกำหนดด้านกฎหมายที่หลากหลายมากกว่าที่คุณคิด
คะน้าใบเขียว
clock icon23/01/2024
Rabbit Care Blog Image 1013

ขับขี่ปลอดภัย

พรบ รถ คืออะไร? มีความคุ้มครองแตกต่างจากประกันรถยนต์มากน้อยแค่ไหน

นอกเหนือจากประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่เราเลือกทำได้เองแล้ว ยังมีประกัน พรบ. รถ ที่กฎหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องมี
คะน้าใบเขียว
clock icon02/01/2024