7 วิธีเอาตัวรอดหากเจอสถานการณ์รถน้ำมันหมดกลางทาง
เคยมั้ยที่เวลาขับรถทางไกลผ่าน ปั๊มน้ำมัน หลายปั๊ม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แวะ คิดในใจว่าเดี๋ยวถ้ามีปั๊มข้างหน้าค่อยจอดก็ได้ รถกำลังทำเวลาทำความเร็วรอบกำลังได้ แต่พอขับไปเรื่อยๆ จนออกนอกเขตชุมชน เข้าป่าเขาหรือเส้นที่เปลี่ยวปราศจากผู้คน จู่ๆสัญญาเตือน น้ำมันหมด ก็แสดงขึ้นมา ทำให้พวกคุณหลายๆคนคงกลัวว่ารถจะขับได้อีกไกลแค่ไหน ? รถจะดับกลางทางหรือไม่ ? เรื่องแบบนี้พวกคุณหลายๆคนที่มีรถคงต้องเคยประสบปัญหามาบ้างใช่ไหมค่ะ
แต่จริงๆแล้วสัญญาณเตือน น้ำมันหมด จะแสดงต่อเมื่อเหลือน้ำมันในถังอย่างน้อย 10 ลิตร ส่วนคำถามที่ว่า แล้วเราจะขับรถที่สัญญาณแจ้งเตือนต่อไปได้อีกกี่กิโลเมตร คำตอบนี้ไม่สามารถตอบแบบเป็นตัวเลขชัดๆ ได้ แต่จะขอตอบแบบกว้างๆ ว่า เมื่อสัญญาณแจ้งเตือนน้ำมันใกล้หมดขึ้นมาที่หน้าปัด รถยนต์แต่ละคันจะสามารถขับขี่ได้ในระยะทางที่ไม่เท่ากัน แล้วแต่อัตราการใช้งานน้ำมันของรถแต่ละรุ่น ให้คิดไว้เลยว่า จากระยะทางที่ไฟสัญญาณเตือนขึ้น พยายามขับรถหาปั๊มให้ได้ภายในรัศมี 30 กิโลเมตร
เติมน้ำมันตอนไหนดีที่สุด ?
สำหรับหลายๆคนที่ชอบรอให้น้ำมันใกล้หมดก่อนแล้วค่อยเติม วิธีแบบนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายให้รถของคุณได้ เวลาที่ดีที่สุดในการเติมน้ำมันก็คือ ตอนที่ถังน้ำมันยังมีน้ำมันเหลืออยู่บ้างไม่น้อยจนเกินไป และตอนหน้าร้อนไม่ควรเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพราะว่าอากาศร้อน มีแนวโน้มที่จะทำให้ความดันในถังน้ำมันมากเกินไป
เมื่อรถของคุณมีสัญญาณเตือนน้ำมันหมดขึ้นมาควรทำอย่างไร?
อย่าเบรก หรือ ลดความเร็วถ้าไม่จำเป็น
เพราะมันจะทำรถของเรายิ่งกินน้ำมัน
ควบคุมความเร็ว ตามขนาดรถ
สำหรับรถเครื่องยนต์ 1300-1800 ลิตร ควรใช้ความเร็วให้อยู่ในระหว่าง 45-65 กม. / ชม. เป็นความเร็วที่ประหยัดที่สุด สำหรับรถเครื่องยนต์ 2000-3000 ลิตร ควรใช้ความเร็วให้อยู่ในระหว่าง 55-75 กม. / ชม.
ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในรถ
แอร์, วิทยุ ระบบนำทาง, การชาร์จระบบไฟต่างๆ
ปิดกระจกหน้าต่าง
เพื่อลดความแรงต้านทานของลม สามารถช่วยให้รถของคุณประหยัดน้ำมันได้
ศึกษาเส้นทางแผนที่
เพื่อเตรียมหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด และควรดูด้วยว่าเส้นทางที่กำลังมุ่งหน้าไปการจราจรติดขัดแค่ไหน เพราะหากเกิดการจราจรติดขัดมาก ก็เหมือนคุณนำรถคุณเข้าไปติด รอให้น้ำมันหมดเสียเปล่า
ให้ความสนใจกับเส้นทาง และ หลีกเลี่ยงถนนที่มีหลุมมีบ่อ
สำหรับวันนี้เราได้นำความรู้วิธีแก้ไขในกรณีถ้าเกิดเหตุการณ์ในการขับขี่รถยนต์ทางไกล แล้วเกิดน้ำมันใกล้หมดและบริเวณนั้นไม่มีปั้มน้ำมัน พวกคุณสามารถนำ 7 วิธีเหล่านี้ไปแก้ไขเฉพาะหน้าได้ แต่ทางที่ดีที่สุดเราควรเช็คและเตรียมความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้งนะคะ
เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับเราตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้ ดังนั้นหากคุณเลือกทำประกันรถยนต์ที่มีบริการในด้านช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง หรือ บริการช่วยเหลือเติมน้ำมัน ก็จะช่วยให้คุณหลุดพ้นออกจากสถานการณ์นั้นได้อย่างราบรื่น และสบายใจได้หายห่วงนั่นเอง ทุกคนสามารถเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่ต้องการ พร้อมกับรับตัวเลือกข้อเสนอเพิ่มเติมได้ที่ https://asiadirect.co.th/ หรือ 02-089-2000
Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ