ขับขี่ปลอดภัย

อาการยางบวมเกิดจากอะไร สามารถขับต่อได้ไหม และต้องแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง

ผู้เขียน : คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด ผู้พยายามเข้าใจมักเกิ้ล นิยมชมชอบกลางคืน สามารถผูกมิตรได้ด้วยของกินอร่อยๆ ตอนนี้กำลังหลบลี้หนีภัยจากออฟฟิศซินโดรมอยู่

Published February 06, 2024
ยางบวม

อาการยางบวมเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงยางมากหากเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ดังนั้นใครที่เดินทางข้ามจังหวัด หรือมีการใช้งานรถยนต์บ่อยครั้ง ควรทำความเข้าใจก่อนเลยว่า ยางบวม คือ อะไร เกิดจากสาเหตุใด ถ้าเกิดขึ้นมาแล้วมีอาการอย่างไรบ้าง แล้วถ้าหากเกิดขึ้นมาจริงต้องแก้ไขด้วยวิธีไหน ในกรณีที่จำเป็นเมื่อมีอาการยางบวมเกิดขึ้นมา สามารถขับต่อได้หรือไม่ สุดท้ายปิดจบบทความด้วยการแนะนำวิธีดูแลยางรถยนต์ของเรา ให้ห้างไกลจากอาการนี้ หากคุณเป็นคนรักรถ และใช้งานค่อนข้างบ่อย เอเชียไดเร็ค ขอแนะนำเลยว่าควรเก็บข้อมูลให้ครบถ้วน!

 

ยางบวม คือ อะไร

ยางบวม คือ อาการที่เนื้อยางปูดบวมขึ้นมาบางส่วน ไม่ว่าจะบวมเล็กน้อย หรือปูดบวมหนักหน่วงจนเหมือนเป็นลูกมะนาว เพราะเกิดจากการที่โครงสร้างภายในยางมีการฉีกขาดอย่างรุนแรง จนทำให้เหลือเพียงแค่ผิวแก้มยางด้านนอก และมีแรงดันจนปูดบวมออกมาเฉพพาะจุด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นถ้าใครใช้งานรถยนต์บ่อยครั้ง ต้องเดินทางไปที่ที่ไม่คุ้นเคย ผิวถนนขรุขระ ต้องทำความรู้จักกับอาการยางบวมไว้ให้ดี จะได้ป้องกัน เตรียมการรับมือ และระวังให้ได้มากที่สุด

 

ยางบวม เกิดจากสาเหตุใด

ยางบวม เกิดจากสาเหตุใด ในเบื้องต้นแล้วเกิดได้จากประมาณ 5 สาเหตุด้วยกัน คือ ยางเสื่อมสภาพ, การเบียดหรือกระแทกรุนแรง, การซ่อมแซมยางผิดวิธี, บรรทุกน้ำหนักมากเกิน และสภาพแวดล้อมการใช้งาน ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุทั้งหมด สามารถติดตามอ่านได้จากรายการด้านล่างนี้

  • ยางเสื่อมสภาพ: หมายถึงยางที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการเติมลมในระดับที่พอเหมาะ ทำให้ยางอ่อน ส่งผลให้โครงสร้างยางทำงานหนักมากเกินไป และกลายเป็นความเสียหายสะสมจนฉีดขาดนั่นเอง
  • การเบียดหรือกระแทกรุนแรง: กรณีที่เกิดการตกหลุม หรือมีการกระแทกที่รุนแรงมาก ก็ส่งผลให้โครงสร้างยางภายในฉีกขาดได้เหมือนกัน พอโครงสร้างเสียหาย ก็จะมีอาการยางบวมตามมา
  • การซ่อมแซมยางผิดวิธี: เกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีการซ่อมแซมผิดวิธี เพราะปะเฉพาะด้านในท้องยาง ทำมีความชื้นรั่วซึมเข้าไปภายในได้ และเมื่อโครงสร้างที่มีเหล็กอยู่ภายในสัมผัสกับความชื้นมากขึ้น ก็ทำให้เกิดสนิมจนแยกตัวออกจากกัน
  • บรรทุกน้ำหนักมากเกิน: ร่วมกับการเลือกใช้งานยางที่ไม่ได้มาตรฐาน และนำรถไปใช้งานหนักมาเกินไป ก็ส่งผลให้เกิดอาการโครงสร้างยางเสียหาย และกลายเป็นยางบวมได้เช่นเดียวกัน
  • สภาพแวดล้อมการใช้งาน: โดยเฉพาะการขับขี่ผ่านเส้นทางที่มีคราบน้ำมันบนถนนบ่อยครั้ง จะกลายเป็นต้นตอของการเสียหายโครงสร้างยางได้ด้วย

ดังนั้นถ้าหากใครใช้งานรถยนต์บ่อย อย่าลืมระวังต้นเหตุยางบวมเหล่านี้เอาไว้ด้วย เพราะถ้าหากยางเกิดอาการบวมขึ้นมาในระหว่างเส้นทางที่เราไม่คุ้นชิน อาจทำให้เสี่ยงต่ออันตราย เกิดอุบัติเหตุได้ การพยายามระวังต้นเหตุเหล่านี้ไว้ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเลี่ยงอันตรายได้ดี 

 

ยางบวม ขับได้ไหม

 

ยางบวม อาการเป็นอย่างไร

ยางบวม อาการเป็นอย่างไร คำตอบ คือ จะมีบางมุมของยางรถยนต์ที่บวมปูดขึ้นมา ตามที่เราได้กล่าวไปบ้างแล้วว่าโครงสร้างภายในเกิดความเสียหาย ทำให้มีแรงดันอากาศออกมาในจุดที่มีปัญหา และกลายมาเป็นยางบวมในที่สุด

 

วิธีแก้ยางบวม

วิธีแก้ยางบวมที่ดีที่สุด มีเพียงแค่อย่างเดียวเลยก็คือ กรเปลี่ยนยาง เนื่องจากถ้าเกิดยางบวมขึ้นมาในเส้นใดก็ตาม มันส่งผลถึงโครงสร้างภายในของยาง อาจทำให้เกิดอันตรายได้อย่างรุนแรงหากฝืนใช้ไปต่อ ฉะนั้นถ้าตรวจสอบแล้วพบเจออาการนี้ขึ้นมา ให้หาอู่ที่สามารถเปลี่ยนยางได้ใกล้เคียงทันทีจะดีที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงอุบัติเหตุที่จะตามมาในภายหลัง อ้างอิงวิธีแก้ปัญหายางบวมพื้นฐานจากกรมขนส่งบทางบก

 

ถ้ายางบวม ขับได้ไหม

ถ้ายางบวม ขับได้ไหม ในความเป็นจริงแล้วไม่ควรขับต่อ เนื่องจากยางเกิดความเสียหายภายในขึ้นมาแล้ว ยิ่งใช้ในถนนหนทางที่ไม่ดี จะยิ่งเกิดความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้ามีอู่อยู่ใกล้เคียงมาก ๆ ยังพอที่จะสามารถเดินทางเข้าไปรับการซ่อมแซม เปลี่ยนยางได้ทันที เพราะไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน อาจกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาที่อันตรายหลายอย่างได้ด้วย

 

วิธีดูแลให้ห่างไกลจากอาการยางบวม

วิธีการดูแลให้ห่างไหลจากอาการยางบวมในขั้นพื้นฐานจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 4 วิธีด้วยกัน คือ การเติมลงยางให้เหมาะสม, การสลับยางรถยนต์ตามระยะที่กำหนด, การใช้งานยางรถยนต์ให้ถูกประเภท และการมีชุดปะยางฉุกเฉินติดรถเอาไว้ ซึ่งรายละเอียดในแต่ละข้อ เชื่อว่าทุกคนสามารถเอาไปอ้างอิงเพื่อทำตามได้อย่างง่ายดายโดยไม่ลำบากมากนัก เพราะถ้าหากเราคิดเทียบกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นมาหลังจากพบอาการยางบวม การกระทำให้ครบทุกวิธีดูแล คงเป็นเรื่องที่สะดวกมากอยู่แล้ว

 

  • การเติมลงยางให้เหมาะสม: เนื่องจากรถยนต์บางชนิดมีข้อกำหนดการใช้ปริมาณลมยางที่แตกต่างกันออกไป ตามาตรฐานที่กำหนด ดังนั้นควรเช็กและเติมเอาไว้อย่างเหมาะสม ถ้าปล่อยยางอ่อนเป็นเวลานาน อาจเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างยางได้
  • การสลับยางรถยนต์ตามระยะที่กำหนด: โดยเบื้องต้นการสลับยางควรทำทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงที่มีการสลับยางจะทำให้เราสามารถตรวจเช็กสภาพยางพื้นฐานได้ด้วย เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีอาการบวมหรือไม่
  • การใช้งานยางรถยนต์ให้ถูกประเภท: เลือกประเภทยางให้เหมาะกับการใช้งานตัวรถ ยกตัวอย่างเช่น การใช้งานรถเฉพาะในเมือง, การใช้งานแบบเดินทางไกล หรือการใช้งานกับรถที่บรรทุกสัมภาระหนัก เลือกให้เหมาะสมเพื่อป้องกันปัญหาเบื้องต้นไว้ก่อน
  • การมีชุดปะยางฉุกเฉินติดรถเอาไว้: เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่า จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับยางรถยนต์ของเราบ้างระหว่างเดินทาง ดังนั้นการมีอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินเตรียมพร้อมไว้ก่อน ถือเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน


รู้แบบนี้แล้วเหลือเพียงแค่คุณเจ้าของรถทุกคนนำไปทำตาม เพื่อดูแลให้ยางรถยนต์ของเรามีสภาพที่ดีพร้อมเดินทางอยู่ตลอดเวลา รวมถึงห่างไกลจากสาเหตุอาการยางบวมด้วยนั่นเอง เพราะถ้ายางเกิดบวมขึ้นมาแล้ว ต้องเปลี่ยนสถานเดียว คงต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากตามมา รวมถึงอันตรายระหว่างที่มีอาการบวมอีกต่างหาก

 

วิธีแก้ยางบวม

 

การเคลมประกันเมื่อยางบวม

การเคลมประกันในกรณีที่ยางบวม จะแบ่งออกได้เป็นการเคลมจาก 2 ทาง คือ การเคลมกับบริษัทประกันรถยนต์ที่เราทำเอาไว้ และการเคลมจากร้านจำหน่ายยางที่มีประกันเพิ่มเติม โดยเงื่อนไขในการเคลมก็จะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • การเคลมยางกับบริษัทประกันรถยนต์: กรณีที่เราได้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ ซึ่งสามารถเคลมได้อย่างครอบคลุมทุกอย่างก็จริง แต่สำหรับยางแล้วจะไม่สามารถเคลมได้เต็ม 100% โดยส่วนมากจะเคลมได้ 50% ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ของคุณอีกทีหนึ่ง
  • การเคลมยางกับผู้จำหน่ายยาง: บางร้านตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ จะมีการรับประกันยางรถยนต์เพิ่มเติมเอาไว้ ซึ่งส่วนมากจะมีการประกันที่ประมาณ 10,000 กิโลเมตร หรือระยะเวลา 6 เดือนนั่นเอง สามารถนำเข้าไปเคลมได้หากมีประกันส่วนนี้อยู่

พอเห็นภาพรวมเรื่องการเคลมประกันแล้ว อาจทำให้หลายคนตัดสินใจได้เลยว่าต่อจากนี้ การเปลี่ยนยาง อาจต้องเลือกร้านที่มีการรับประกัน รวมถึงการทำประกันภัยรถยนต์เพิ่มเติมเอาไว้ให้เกิดความสบายใจตลอดทุกการเดินทาง เพราะประกันรถยนต์จาก เอเชียไดเร็ค มีการช่วยเหลือฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเวลาไหน ก็ไม่ต้องกังวล

และถ้าตอนนี้คุณอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับประกันรถยนต์ เอเชียไดเร็ค สามารถให้คำแนะนำได้อย่างละเอียด รอบคอบ และครบถ้วนมากที่สุด ภายใต้ประกันภัยรถยนต์ที่คุณสามารถเลือกได้ จากบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศมากกว่า 30 ราย อีกทั้งเรายังมีส่วนลดสุดพิเศษให้คุณสูงสุดถึง 70% หากสนใจ อยากฟังข้อเสนอเพิ่มเติม ติดต่อเข้ามาสอบถามได้เลยที่เบอร์ 02-089-2000 เบอร์นี้ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง

บทความขับขี่ปลอดภัย
Rabbit Care Blog Image 1040

ขับขี่ปลอดภัย

รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับรถป้ายแดงอยู่ด้วย

เวลาออกรถใหม่มาใครก็เรียกรถป้ายแดงดันทั่วประเทศ แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้งานรถยนต์ที่มีป้ายแดงติดอยู่ มีข้อกำหนดด้านกฎหมายที่หลากหลายมากกว่าที่คุณคิด
คะน้าใบเขียว
clock icon23/01/2024
Rabbit Care Blog Image 1013

ขับขี่ปลอดภัย

พรบ รถ คืออะไร? มีความคุ้มครองแตกต่างจากประกันรถยนต์มากน้อยแค่ไหน

นอกเหนือจากประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่เราเลือกทำได้เองแล้ว ยังมีประกัน พรบ รถ ที่กฎหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องมี
คะน้าใบเขียว
clock icon02/01/2024
Rabbit Care Blog Image 1010

ขับขี่ปลอดภัย

อยากทำใบขับขี่สากล ทำที่ไหน ใช้ได้กี่ประเทศ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

ตอนนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาเป็นปกติแล้ว หลายคนอาจต้องการทำใบขับขี่สากลเตรียมพร้อมไว้
คะน้าใบเขียว
clock icon28/12/2023