อัปเดตกฎหมายใหม่ค่าปรับจราจร 2566 ถ้าไม่ปฏิบัติตามระวังโทษหนักกว่าเดิม
ปกติแล้วคนที่ใช้รถใช้ถนนต่างต้องรู้ข้อกฎหมายและค่าปรับจราจรเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือการถูกค่าปรับจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นตามอัตราใหม่ ดังนั้นวันนี้ เอเชียไดเร็ค จะพาทุกคนมาดูข้อมูลเกี่ยวกับค่าปรับจราจร 2566 ใหม่ทั้งหมดว่ามีการเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง รวมถึงการแนะนำเรื่องค่าปรับจราจรออนไลน์ล่าสุด สามารถใช้งานระบบได้อย่างไรบ้าง หากไม่ได้จ่ายหรือเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนต่อภาษี จะมีผลอย่างไรบ้าง ลองติดตามอ่านเพื่อหาคำตอบกันตามหัวข้อทั้งหมดในบทความนี้
รวมกฎหมายค่าปรับจราจร 2566
กฎหมายค่าปรับจราจร 2566 ใหม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราโทษค่าปรับจราจรต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง เริ่มตั้งแต่อัตราโทษค่าปรับกรณีที่เป็นปัจจัยต่อการเกิดอุบัติเหตุ, ค่าปรับจราจรใหม่กรณีเมาแล้วขับ, ค่าปรับจราจรใหม่กรณีไม่คาดเข็มนิรภัย และค่าปรับจราจรใหม่กรณีมีการแข่งรถบนถนนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งรายละเอียดพร้อมอัตราค่าปรับใหม่จะมีดังนี้
อัตราโทษค่าปรับจราจรกรณีที่เป็นปัจจัยต่อการเกิดอุบัติเหตุ
อัตราโทษค่าปรับจราจรกรณีที่เป็นปัจจัยต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การฝ่าไฟแดง, ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย, ขับรถย้อนศร และไม่สวมหมวกนิรภัย เป็นต้น โดยพฤติกรรมทั้งหมดถูกระบุไว้ในกฎหมายจราจร ว่าเป็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงบนท้องถนน ทำให้มีอัตราค่าปรับจราจรใหม่สูงขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า
- ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีค่าปรับสูงสุด 4,000 บาท (เดิมปรับสูงสุดที่ 1,000 บาท)
- ขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร มีค่าปรับสูงสุด 4,000 บาท (เดิมปรับสูงสุดที่ 1,000 บาท)
- ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย มีค่าปรับสูงสุด 2,000 บาท (เดิมปรับสูงสุดที่ 500 บาท)
- ขับรถย้อนศร มีค่าปรับสูงสุด 2,000 บาท (เดิมปรับสูงสุดที่ 500 บาท)
- ไม่สวมหมวกนิรภัย มีค่าปรับสูงสุด 2,000 บาท (เดิมปรับสูงสุดที่ 500 บาท)
- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น มีค่าปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (เดิมปรับสูงสุดที่ 2,000-10,000 บาท)
ซึ่งหากเทียบตัวเลขแบบภาพรวมแล้วค่าปรับจราจรทั้งหมดที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่าจากเดิมเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าลืมรับทราบข้อมูลตัวเลขเหล่านี้ และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรกันอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และไม่ทำให้ตัวคุณเองเสี่ยงต่ออันตราย หรือถูกค่าปรับอย่างหนักหน่วงตามที่กล่าวมาด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติมเรื่องการควบคุมความเร็ว คือ
- รถยนต์ส่วนบุคคลความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. แต่ถ้าอยู่เลนขวาไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม.
- รถโดยสาร 5-7 ที่นั่งความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
- รถบรรทุกโดยสารเกิน 15 คน ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.
- รถโรงเรียน ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
- รถมอเตอร์ไซค์ ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
- รถมอเตอร์ไซค์ 400 ซีซีขึ้นไป ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม.
- รถลากจูง รถสามล้อ รถยนต์สี่ล้อเล็ก ความเร็วไม่เกิน 65 กม./ชม.
- รถแทรกเตอร์ รถบดถนน รถที่ใช้ในการเกษตร ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม.
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีเมาแล้วขับ
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีเมาแล้วขับที่กฎหมายกำหนดว่าการเมาแล้วขับ เท่ากับการมีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยรายละเอียดค่าปรับจราจรและโทษใหม่ของกรณีเมาแล้วขับ คือ เมาแล้วขับครั้งแรก จำคุกไม่เกิน 1 ปี ค่าปรับจราจรที่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าเมาแล้วขับซ้ำภายใน 2 ปีนับตั้งแต่ครั้งแรก อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 50,000-100,000 บาท ซึ่งกรณีครั้งที่ 2 ศาลจะทำการลงโทษจำคุกและปรับค่าเสียหายไปด้วย
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีไม่คาดเข็มขัดนิรภัย คือ หากฝ่าฝืนจะถูกปรับ 2,000 บาทตามกฎหมายจราจรใหม่ แต่อย่างไรก็ตามการจะถูกค่าปรับจราจรกรณีไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จะมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปตามประเภทรถยนต์ดังนี้
- รถยนต์ส่วนบุคคลและรถตู้ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่งตรงไหนก็ตาม
- รถกระบะ 2 ประตู ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดทั้งหมด
- รถกระบะ 4 ประตู ผู้โดยสารตอนหลังต้องขาดเข็มด้วยเช่นกัน (กรณีมีผู้นั่งท้ายกระบะจะต้องไม่นั่งเกินจำนวนที่กฎหมายระบุเอาไว้)
แต่ก่อนหน้านี้เราอาจต้องคาดเข็มนิรภัยเฉพาะคนนั่งเบาะหน้า และผู้ขับขี่เท่านั้น แต่เมื่อมีการปรับกฎหมายใหม่แล้วว่าต้องคาดเข็มทุกคนที่โดยสารรถ ก็ควรปฏิบัติตาม ไม่อย่างนั้นอาจถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบ และมีโอกาสโดนค่าปรับสูง
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีมีการแข่งรถบนถนน
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีการจับกลุ่มกันแข่งรถบนถนน แบ่งออกเป็น 3 กรณีย่อย คือ กรณีรวมกันตั้งแค่ 5 คันขึ้นไป, กรณีเป็นผู้จัดหรือโฆษณา และกรณีเป็นร้านแต่งรถที่ช่วยแต่งรถในการแข่ง จะมีอัตราค่าปรับจราจรที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการถูกปรับหรือการรับโทษจำคุก สามารถอ่านได้จากรายละเอียดย่อยดังนี้
- กรณีรวมกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อแข่งรถบนถนนสาธารณะ มีฐานความผิดพยายามแข่งรถ เมื่อมีมีการ นัดหมายล่วงหน้า, รถที่ใช้มีการดัดแปลงสภาพไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการแข่งรถ หากทำผิด 2 ใน 3 ตามที่กล่าวมาต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือมีค่าปรับจราจรตั้งแต่ 5,000-10,000 บาทเลยทีเดียว
- ส่วนกรณีที่เกี่ยวข้องด้านการจัดแข่งหรือโฆษณา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และมีค่าปรับจราจรที่ 10,000-20,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ
- หากเกี่ยวข้องในกรณีเป็นร้านแต่งรถที่ไปแข่ง จะมีโทษปรับในฐานะผู้สนับสนุนจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือค่าปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีใช้มือถือขณะขับรถ
ค่าปรับจราจรใหม่กรณีใช้มือถือขณะขับรถ คือโทษปรับสูงสุดที่ 4,000 บาท แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องการใช้มือถือสามารถใช้ได้ แต่ต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย เช่น หูฟังไร้สาย, ใช้อุปกรณ์เสริมช่วยยึดจับโทรศัพท์มือถือเอาไว้หน้ารถ แต่ต้องไม่บดบังทัศวิสัยน์การมองเห็น และหากต้องจับมือถือ ควรหยุดรถและจอดในสถานที่ปลอดภัย
ทั้งหมดนี้คือค่าปรับจราจรใหม่ 2566 ที่มีการเพิ่มค่าปรับให้สูงขึ้นกว่าเดิมมากอย่างที่เราได้กล่าวไป ฉะนั้นการปฏิบัติตามกฎหมายจะช่วยให้คุณเดินทางอย่างปลอดภัย และไม่ต้องโดนค่าปรับโดยใช่เหตุนั่นเอง ส่วนคนที่เคยโดนค่าปรับจราจรมาแล้วยังไม่ได้ไปจ่าย แนะนำว่าควรรีบไปต่ายโดยด่วน เนื่องจากในปัจจุบันหากไม่เสียค่าปรับจราจร อาจไม่ได้รับป้ายภาษี และเสี่ยงต่อการถูกปรับเพิ่มเติม จากที่มีการประกาศทางสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ไปแล้วนั่นเอง
ค่าปรับจราจรออนไลน์
ค่าปรับจราจรออนไลน์จะได้รับในกรณีที่ถูกกล้องวงจรปิดถ่ายภาพบนถนนสาธารณะ และอัปเดตขึ้นบนฐานข้อมูลค่าปรับจราจรออนไลน์ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปเช็กค่าปรับจราจรได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ https://ptm.police.go.th/eTicket ที่หากเข้าใช้งานครั้งแรกต้องทำการลงทะเบียนก่อน จากนั้นค้นหาค่าปรับจราจรตามช่วงวันที่ที่ต้องการ ระบบจะแสดงผลรายละเอียดใบสั่งทั้งหมด และคุณสามารถเลือกจ่ายค่าปรับผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking Krungthai NEXT, ธนาคารกรุงไทย, สาขาของไปรษณีย์ และตู้ ATM กรุงไทยหรือตู้บุญเติมทั่วไป
การปฏิบัติตามกฎจราจรใหม่เราจะต้องไม่คิดถึงแค่ความเกรงกลัวต่อค่าปรับจราจรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อตัวเอง และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันด้วย ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความมั่นใจและความอุ่นใจทุกครั้งที่ออกเดินทาง เอเชียไดเร็ค แนะนำให้เลือกสมัครประกันรถยนต์ตามความเหมาะสมของการใช้งาน ผ่านการเปรียบเทียบจากระบบที่หน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ได้ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมในประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมต่อการใช้งานของคุณ และจากนั้นหากสนใจสมัครประกันรถยนต์สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-089-2000 หรือไลน์แอด @asiadirect ซึ่งสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ความคุ้มครองรถประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท