

ใบขับขี่ออนไลน์ใช้งานอย่างไร แล้วต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์สามารถทำได้หรือไม่
พอเทคโนโลยีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด การใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ในยุคนี้ก็สามารถใช้งานได้จริงแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากการดูใบขับขี่ออนไลน์ เรายังสามารถต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ หรืออบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้อีกด้วย ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับระบบใบขับขี่ออนไลน์ในวันนี้ เอเชียไดเร็ค ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาไว้ให้แล้ว เผื่อว่าผู้ใช้รถทุกคนจะได้สะดวกสบายกับการใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงรู้ข้อมูลด่านอื่น ๆ เพิ่มเติมอย่างครบถ้วนด้วย
ใบขับขี่ออนไลน์คืออะไร
ใบขับขี่ออนไลน์ หรือ ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ คือ ที่ทางกรมขนส่งทางบกเปิดให้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันมาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 แล้ว ซึ่งใบขับขี่ออนไลน์สามารถนำไปใช้แสดงเป็นหลักฐานการดำเนินกิจธุรต่าง ๆ ได้ เช่น ติดต่อกรมขนส่งทางบก, หน่วยงานราชการ และการนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช่นกัน
เรื่องควรรู้กับการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์
สำหรับใบขับขี่ออนไลน์ เราสามารถทำเรื่องต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ได้เช่นกัน เพื่อความสะดวกสบายของทุกคน เอเชียไดเร็ค จึงอยากแนะนำสิ่งที่ควรรู้ก่อน คือ ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์, เอกสารสำหรับใช้ต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ และการจองคิวเพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันของกรมขนส่งทางบก โดยรายละเอียดแต่ละหัวข้อมีดังนี้
5 ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์
ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ เบื้องต้นจะมีทั้งหมด 5 ขั้นตอนด้วยกัน คือ จองคิว, ยื่นเอกสาร, ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย, อบรม และชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งรายละเอียดสำหรับทุกขั้นตอนเพื่อให้เราสามารถใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ได้อย่างไร้ปัญหา สามารถติดตามอ่านได้จากรายการทั้งหมดด้านล่าง
- ขั้นตอนที่ 1 การจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
- ขั้นตอนที่ 2 ยื่นตรวจสอบเอกสารที่เราเตรียมมา
- ขั้นตอนที่ 3 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นต่อการขับขี่, ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบปฏิกิริยาเท้า
- ขั้นตอนที่ 4 ทำการอบรม 1 ชั่วโมงเพื่อเป็นการทบทวนข้อปฏิบัติการขับขี่
- ขั้นตอนที่ 5 ทำการชำระค่าธรรมเนียม (ปิดให้ชำระ 15.30 น.) จากนั้นทำการถ่ายรูปเพื่อพิมพ์ใบขับขี่ และรับบัตรหลังจากเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน
ขอเพียงแค่เราจองคิวการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ให้เรียบร้อย พร้อมกับทำตามขั้นตอนเพียง 5 ขั้น ใช้เวลาไม่นาน เราก็จะสามารถอัปเดตข้อมูลบนระบบออนไลน์ เพื่อให้ใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง และสะดวกสบายเหมือนเดิมทุกประการ ฉะนั้นอย่าลืมที่จะจองคิวต่อใบขับขี่อย่างสม่ำเสมอ เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาของคิวเพื่ออบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์แบบที่ใช้เวลามากกว่าเดิม
เอกสารการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์
เอกสารสำหรับการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ ใช้เพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ ใบขับขี่เดิม (หรือใบแทน) และบัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น ซึ่งเอกสารตรงนี้เราไม่สามารถเปิดใช้งานใบขับขี่ออนไลน์เพื่อเป็นหลักฐานได้ เพราะถือว่าหมดอายุไปแล้ว แนะนำว่าให้เอาบัตรตัวจริงทั้งหมดเข้าไปติดต่อที่สำนักงานขนส่งจะเป็นการดีที่สุด เพื่อให้ทุกขั้นตอนสามารถจัดการได้อย่างราบรื่น ไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ
การจองคิวเพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์
การจองคิวเพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ อยู่ในขั้นตอนที่ 1 ของการต่อใบขับขี่ โดยคุณสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เลือก สำนักงานขนส่งที่ต้องการเข้าใช้บริการ จากนั้นเลือกเมนู “งานใบอนุญาต” พร้อมกับเลือกวันที่ที่คุณสะดวก โดยวันที่มีจุดสีแดงเป็นวันหยุด จุดสีเหลืองเป็นวันที่คิวเต็ม และจุดสีดำเป็นวันที่คิวว่าง
หลังจากนั้นเลือกรอบการให้บริการในวันที่เราเลือก สุดท้ายแอปพลิเคชันจะแสดง QR Code เพื่อให้เรานำไปยื่นต่อ สำนักงานขนส่งเพื่อต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้เมื่อถึงวันที่ทำการจองเอาไว้
วิธีดูใบขับขี่ออนไลน์
วิธีดูใบขับขี่ออนไลน์ หรือการเปิดใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT QR License ซึ่งรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android แต่ทั้งนี้ต้องมีการลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ดังนี้
- ลงทะเบียนด้วยข้อมูลบัตรประชาชนหรืออีเมล
- กรอกรหัส OTP ที่ได้รับเพื่อการยืนยัน
- ตั้งรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชันใบขับขี่ออนไลน์
- ทำการสแกน QR Code หลังใบขับขี่ เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลใบขับขี่ออนไลน์
- เข้าสู่เมนูเพื่อแสดงใบขับขี่ออนไลน์ได้ทันที
ทำตามครบทุกขั้นตอนแล้ว คุณจะสามารถใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ หรือดูใบขับขี่ออนไลน์ได้ตลอดเวลา ทำให้เราสามารถใช้งานในกรณีฉุกเฉินอย่างการลืมใบขับขี่ตัวจริงไว้ได้ ถือเป็นความสะดวกสบายที่สำนักงานขนส่งหยิบยื่นให้กับประชาชนทั่วไปได้ใช้งาน ใครว่าเวลาลืมใบขับขี่แล้วจะเสียค่าปรับ สามารถโหลดแอปเพื่อใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ไว้ดูได้ทุกเมื่อ
อบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์นานไหม
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล: ใช้เวลาอบรม 1 ชม.
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง: ใช้เวลาอบรม 2 ชม.
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ: ใช้เวลาอบรม 3 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป: ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง พร้อมสอบข้อเขียน
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่สิ้นอายุเกิน 3 ปี: ใช้เวลาอบรม 2 ชั่วโมง พร้อมสอบข้อเขียนและสอบปฎิบัติ
การอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ดูเผิน ๆ เหมือนใช้เวลานาน แต่ถ้าเป็นรูปแบบออนไลน์ที่เราสามารถเปิดดูได้ทุกที่ทุกเวลา ก็ถือว่าสะดวกสบายกว่าการต้องไปนั่งอบรมที่สำนักงานขนส่งมาก ๆ แล้ว แถมไม่ต้องเสียเวลารอคิวนานอีกด้วย อมรมเสร็จ ก็เข้าสู่กระบวนการรับใบขับขี่พร้อมไปเปิดใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ
เมื่อไหร่ที่ต้องอบรบต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์
ต้องอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ก็ต่อเมื่อ ใบขับขี่อายุขาดเกิน 1 ปี หรือใบขับขี่ที่มีอายุขาดเกิน 3 ปี และนอกเหนือจากการอบรมแล้ว อาจต้องเสียเวลาทำข้อสอบใหม่ทั้งหมด ส่วนกรณีขาด 3 ปีต้องมีการสอบปฏิบัติเพิ่มเติมด้วย เมื่อทำการต่ออายุอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการลงทะเบียนบนแอปพลิเคชันใบขับขี่ออนไลน์อีกครั้ง ให้เราสามารถกลับมาใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ใบใหม่ได้นั่นเอง
ต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ล่วงหน้าได้นานสุดกี่วัน
การต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ล่วงหน้า สามารถทำได้นานที่สุด คือ 180 วัน หรือ 6 เดือน และถ้าใบขับขี่หมดอายุมาไม่เกิน 1 ปี สามารถจองคิวเพื่อต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ได้เลย โดยที่มีการชำระค่าธรรมเนียมและทำตามขั้นตอนพื้นฐาน ไม่ต้องอบรมใหม่ ไม่ต้องสอบใหม่
การทำใบขับขี่ออนไลน์สำหรับคนทำใบขับขี่ใหม่ครั้งแรก
การทำใบขับขี่ออนไลน์สำหรับคนทำครั้งแรก จะแตกต่างจากคนที่ต่ออายุใบขับขี่เพียงเล็กน้อย โดยขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่การจองคิวยังเหมือนเดิม เพียงแต่การอบรมของการทำใบขับขี่ออนไลน์สำหรับคนทำใบใหม่ครั้งแรก จะไม่สามารถอบรมผ่านระบบออนไลน์ได้ แต่ต้องไปอบรมด้วยตัวเองที่สำนักงานขนส่ง หลังจากนั้นต้องทำข้อสอบจำนวน 50 ข้อ ให้ผ่านเกินกว่า 90% หรือก็คือต้องทำให้ได้ทั้งหมด 45 ข้อ พร้อมกับสอบปฏิบัติให้ผ่าน
คำแนะนำเพิ่มเติม: หลังจากที่คุณทำใบขับขี่ออนไลน์ครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว ครั้งถัดไปเพียงแค่ทำตามขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ที่เราแนะนำ ก็จะสามารถเปิดใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความสะดวกสบายที่คนใช้รถไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด
สรุปแล้วใบขับขี่ออนไลน์ใช้งานอะไรได้บ้าง
ในเบื้องต้นการใช้งานใบขับขี่ออนไลน์ สามารถนำไปติดต่อสำนักงานขนส่ง, เป็นตัวแทนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู และกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางราชการ แต่หากใบขับขี่หมดอายุจะไม่สามารถใช้งานได้ ต้องทำการต่อใบขับขี่พร้อมลงทะเบียนใบขับขี่ออนไลน์ใหม่อีกครั้งถึงสามารถใช้งานได้
พอได้รู้ถึงความสำคัญของใบขับขี่ออนไลน์ว่าสะดวกสบายแค่ไหน แนะนำว่าให้ผู้ที่มีใบขับขี่อยู่แล้ว ทำการลงทะเบียนพร้อมดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT QR License มาใช้งานติดตัวไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉินเราจะได้เหมือนว่ามีใบขับขี่ออนไลน์พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น เอเชียไดเร็ค ขอเสนอว่าควรทำประกันรถยนต์ควบคู่เอาไว้ด้วย เพื่อที่หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นมา เราจะได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมมากที่สุด และกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด การมีใบขับขี่ออนไลน์ติดตัวอยู่ด้วย จะช่วยให้เราไม่ต้องทำผิดกฎจราจรเพิ่มเติมได้อีกต่างหาก ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถาม เอเชียไดเร็ค ได้โดยตรงผ่านการติดต่อที่เบอร์ 02-089-2000 สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกันรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง