อู่ในเครือธนชาต

หากอยู่ในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ พยายามควบคุมสติไว้ให้ได้มากที่สุด ประคับประคองรถให้ไม่เกิดอุบัติเหตุหนักกว่าเดิม หรือถ้าหากรถหยุดนิ่งสนิทแล้วทั้งรถของคุณ และรถของคู่กรณี ให้ลองเช็กอาการบาดเจ็บของคนบนรถ รวมถึงตัวคุณเองก่อนว่ามีใครได้รับบาดเจ็บไหม กรณีที่มีคนได้รับบาดเจ็บให้ติดต่อรถพยาบาลฉุกเฉิน 1669 แล้วค่อยติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ ด้วยเบอร์ 191 เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือรถฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว จากนั้นคือวิธีการติดต่ออู่ในเครือธนชาต เพื่อให้ทางบริษัทส่งตัวแทนจากธนชาติประกันภัยเข้ามาช่วยเหลือดังนี้

• ติดต่ออู่ในเครือธนชาตเพื่อแจ้งอุบัติเหตุ

  กับเจ้าหน้าที่ประกันภัยที่เบอร์ 02-662-8999 โดยเบอร์นี้สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทีมงานเจ้าหน้าที่ประกันภัยจากธนชาตประกันภัย พร้อมช่วยเหลือตลอดเวลาอยู่แล้ว

• ให้ข้อมูลเบื้องต้น

  แจ้งชื่อ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ เลขทะเบียนรถยนต์ ยี่ห้อหรือรุ่นรถยนต์ และเลขกรมธรรม์ หากมี สุดท้ายบอกจุดเกิดเหตุให้ชัดเจนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ประกันภัยเดินทางมาถึงอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

• ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ประกันภัยธนชาต

  หากเป็นไปได้ ให้ลงจากรถเพื่อเก็บภาพที่เกิดเหตุให้มากที่สุด ถ่ายภาพจุดที่มีร่องรอยความเสียหายบนตัวรถยนต์เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเคลมรถยนต์กับอู่ในเครือธนชาต

• ออกจากที่เกิดเหตุ

  หากไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและมีการยอมรับความผิดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ประกันภัยธนชาตเรียบร้อยแล้ว อาจพิจารณาย้ายรถยนต์เข้าสู่บริเวณที่ปลอดภัยเพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำสองและลดการกีดขวางจราจร

• ไม่รีบเซ็นเอกสาร

  ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด หากมีเอกสารใด ๆ ที่ถูกหยิบยื่นมาจากคู่กรณี อย่าเพิ่งรีบเซ็นออกไป รอจนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันภัยของคุณจะเดินทางมาถึงเพื่อรับคำปรึกษาอย่างละเอียดและรอบคอบก่อน

• เจ้าหน้าที่ประกันภัยช่วยเหลือ

  เจ้าหน้าที่ประกันภัยจะให้ความช่วยเหลือตลอดจนสถานการณ์คลี่คลาย รวมถึงให้คำแนะนำเรื่องการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่อู่ในเครือธนชาต หรือชี้เป้าอู่ในเครือธนชาตใกล้คุณเพื่อให้เข้าซ่อมง่ายขึ้น

• กรณีรถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้

  ธนชาตประกันภัยจะช่วยประสานงานติดต่อกับอู่ในเครือธนชาตใกล้คุณ เพื่อเตรียมรถลากจูงเข้ามาช่วยเคลื่อนย้ายรถคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง

• การเคลมรถยนต์

  ในทุก ๆ การเคลมรถยนต์กับอู่ในเครือธนชาต จะมีการประสานงานต่อจากเจ้าหน้าที่ประกันภัยไปยังเจ้าหน้าที่สินไหมทดแทนเพื่อช่วยเหลือในเรื่องการเคลมรถยนต์
   

ก่อนนำรถยนต์เข้าซ่อมคุณสามารถตรวจสอบอู่ในเครือธนชาตใกล้คุณได้จากหน้าเว็บไซต์ของ Asia Direct หรือตรวจสอบจากเว็บไซต์ธนชาตประกันภัย และสามารถขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่สินไหมของบริษัท Asia Direct

• ต้องกรอกข้อมูลบนแบบฟอร์ม เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประกันภัยการเดินทางและอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งคุณจะต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการรักษาประโยชน์การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนนั่นเอง
• จากนั้นเตรียมแนบเอกสารเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ตามที่ระบุเอาไว้ในตอนท้ายของความคุ้มครอง และอย่าลืมเขียนเบอร์โทรศัพท์ กับอีเมลให้กับทางอู่ในเครือธนชาตไว้ด้วย เพื่อที่ทางบริษัทจะได้แจ้งความคืบหน้าในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแก่คุณ ผ่านช่องทางติดต่อที่คุณได้ให้ไว้
• ช่องทางการส่งเอกสารเพิ่มเติมสามารถดูได้จากในแบบฟอร์ม หรือสามารถส่งเข้ามาที่บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ 999/1 เดอะไนน์ทาวเวอร์ ถนนพระราม 9 แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
• เมื่อทางอู่ในเครือธนชาต หรือบริษัท ธนชาตประกันภัยได้รับเอกสารจากคุณแล้ว จะมีการยืนยันการรับเอกสารผ่าน SMS อีกครั้งหนึ่ง
• แต่ถ้าทางอู่ในเครือธนชาตต้องการเอกสารเพิ่มเติมจาก ทางบริษัทจะใช้เวลาประมาณ 5 วันทำการเพื่อแจ้งให้คุณทราบอีกครั้ง ว่าต้องการเอกสารใดเพิ่มบ้าง ให้คุณเตรียมให้ครบถ้วน พร้อมกับส่งไปยังที่อยู่เดิม หรือที่อยู่ที่ทางธนชาตแจ้งมาอีกครั้ง
• สำหรับคนที่ส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว ทางธนชาตจะใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการสำหรับการพิจารณาและจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่คุณ ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบผ่าน SMS หรืออีเมลอีกครั้งด้วยเช่นกัน
• ช่องทางการรับเงินสินไหมค่าทดแทนจาก อู่ในเครือธนชาต เบื้องต้นจะมีให้เลือก 2 รูปแบบด้วยกัน คือ การรับเงินค่าสินไหมผ่านบัญชีธนาคารออมทรัพย์ และการรับเงินค่าสินไหมผ่านเช็คเงินสด โดยต้องมีการส่งเอกสารให้กับทางบริษัทดังนี้
   
  • การรับเงินค่าสินไหมทดแทนผ่านบัญชีธนาคารออมทรัพย์ ต้องแนบสำเนาสมุดบัญชีธนาคารออมทรัพย์, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาพาสปอร์ต, อีเมล และเบอร์โทรศัพท์มาด้วย
  • การรับเงินค่าสินไหมทดแทนผ่านเช็คเงินสด ต้องแนบชื่อที่อยู่เพื่อการจัดส่งเช็คให้คุณโดยตรง ซึ่งทางอู่ในเครือธนชาตจะทำการส่งเช็คเงินสดให้คุณใน 10 วันหลังจากที่มีการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

• กรณีที่ผู้เอาประกันภัย ทำการสำรองจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ด้วยตัวเอง
• กรณีที่ผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เอาประกันภัย ทำการสำรองจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ไปแล้ว โดยที่มีการยินยอมจากทางผู้เอาประกันภัยเรียบร้อยแล้ว
• การเข้าใช้บริการที่ศูนย์บริการหรืออู่ภายใต้เครือธนชาต และบริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)
• การเข้าใช้บริการศูนย์บริการหรืออู่นอกเครือธนชาต โดยมีการรับมอบอำนาจจากผู้เอาประกันภัยให้รับค่าซ่อมรถยนต์แทนแล้ว
• หากเข้าใช้บริการศูนย์บริการหรืออู่นอกเครือธนชาต แล้วมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เป็นส่วนต่างจากมาตรฐาน หรือตามที่เงื่อนไขกรมธรรม์ได้กำหนดเอาไว้ ผู้เอาประกันภัยต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง
• หากผู้เอาประกันภัยเบี้ยธรรมดานำรถยนต์เข้าศูนย์บริการ (ซ่อมห้าง) ต้องมีการจ่ายค่าส่วนต่างเพิ่มเติมที่เกินจากมาตรฐานการคุ้มครองด้วยตนเอง
• หลังจากที่นำรถยนต์เข้าซ่อมศูนย์บริการหรืออู่นอกเครือ ทางผู้เอาประกันภัยต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมเองทั้งหมด และนำใบเสร็จค่าซ่อมใบจริง มาตั้งเบิกกับทางบริษัทพร้อมหลักฐานการซ่อมแซมให้ครบถ้วน

หากมีการคุ้มครองหรือการการันตี ทั้งหมดนั้นจะไม่สามารถบังคับใช้ได้กับเงื่อนไขดังนี้

• ถ้าศูนย์บริการนั้น ๆ ไม่มีแผนกซ่อมตัวถังและซ่อมสี
• ถ้าศูนย์บริการนั้นไม่ยินยอมให้บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทำการจ่ายค่าซ่อมโดยตรง เนื่องจากศูนย์บริการหรืออู่นั้นต้องการรับเงินโดยตรงจากผู้เอาประกันภัย จึงต้องมีการสำรองจ่ายออกไปก่อน

ถ้ามีการสำรองจ่ายด้วยตนเองไปก่อน สามารถนำใบเสร็จรับเงินค่าซ่อม กับหลักฐานการซ่อมแซม ส่งมาที่บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือที่อยู่บนหน้ากรมธรรม์ เพื่อตั้งเบิกกับทางบริษัทอีกที

• การนำรถยนต์เข้าซ่อมอู่ในเครือ และศูนย์บริการของบริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด ทางผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบด้านความบกพร่องด้วยตนเอง รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการซ่อม ตั้งแต่ระหว่างซ่อม และหลังซ่อม รวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในอนาคตด้วยตนเอง และค่าเสียหายส่วนแรก
• ทางบริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้กพันธ์เป็นเพียงแค่ผู้ติดต่อประสานงานเรื่องการนัดเข้าซ่อม การต่อรองราคา และการชำระเงินเพียงเท่านั้น หากมีความเสียหายใดที่เกิดขึ้นระหว่าง และหลังจากการซ่อม ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง
• หากมีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความล่าช้าในการซ่อมแซม ตั้งแต่ระหว่างซ่อม หลังซ่อม ตลอดจนค่าเสียหายที่เกิดจากความล่าช้าในอนาคต ทางผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองเช่นกัน