เทคนิคเลือกฟิล์มกรองแสงทุกประเภท! ให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์หรือฟิล์มติดรถยนต์ ที่ทราบโดยพื้นฐานกันว่ามีคุณสมบัติลดความสว่างของแสงเข้ามาผ่านในรถ ลดรังสี UV และช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสารเป็นอย่างดี สัมผัสได้จากรถยนต์คันไหนที่ไม่ได้ติดฟิล์ม ภายในรถจะร้อนระอุและแอร์จะทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การเลือกฟิล์มกรองแสง สำหรับรถยนต์ โดยทั่วไปแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่จะให้ประหยัดและคุ้มค่า ควรมีความเข้าใจพื้นฐาน และของระบบการทำงาน ของฟิล์มกรองแสง จะช่วยทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อฟิล์มมาติดรถยนต์ของเราง่ายขึ้นค่ะ
การเลือกฟิล์มกรองแสง
1.เลือกฟิล์ม
ฟิล์มกรองแสงที่ดีไม่ใช่ฟิล์มที่ช่วยลดแสงจ้าได้เพียงอย่างเดียวแต่ต้องมีความสามารถในการสะท้อนแสงอาทิตย์นั้นก็หมายความว่าฟิล์มเข้มไม่ได้แปลว่าลดความร้อนได้สูง ซึ่งการเลือกฟิล์มกรองแสงที่ดีควรดูจาก เปอร์เซ็นต์การลดความร้อน, เปอร์เซ็นต์การลดรังสียูวี, เปอร์เซ็นต์การสะท้อนแสง และ เปอร์เซ็นต์แสงส่องผ่าน
2.เลือกรับประกัน
การรับประกันคุณภาพเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่ในการตัดสินใจ โดยทั่วไปแล้วฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์จะมีการรับประกันคุณภาพไม่ต่ำกว่า 5 ปี บางราย 7 หรือ 10 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการรับประกันด้วย
3.เลือกร้านติดตั้งและช่างที่ชำนาญการ
เรื่องนี้ส่วนสำคัญที่จะให้คุณได้รับฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีและงานที่เรียบร้อยไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง โดยหาร้านจากผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยเฉพาะเว็บไซต์ตามคลับรถในรุ่นที่ท่านใช้และเลือกเอาแหล่งที่คุณสะดวก
ประเภทฟิล์มกรองแสง
1.แบบธรรมดาย้อมสี
ฟิล์มชนิดนี้เป็นฟิล์มธรรมดาที่มีคุณสมบัติทำให้แสงผ่านเข้ามาในรถยนต์อ่อนลงหรือลดความเข้มข้น โดยที่ไม่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีต่างๆจากแสงแดด ทำให้ไม่มีคุณสมบัติที่จะลดความร้อนหรือแสงที่มีอันตรายใดๆ มีราคาถูก เนื้อฟิล์มจะเปลี่ยนสภาพเสื่อมเป็นสีม่วงเร็ว และมีอายุการใช้งานที่สั้น โดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 ปี
2.แบบลดความร้อน
มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีต่างๆ จากแสงแดด ด้วยคุณสมบัติพิเศษเนื้อฟิล์มถูกเคลือบด้วยโลหะพิเศษ สามารถกันรังสีที่เป็นอันตรายต่างๆได้ แถมยังกันความร้อนได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันสามารถแบ่งย่อยได้ ดังนี้
ฟิล์มเคลือบโลหะ หรือ ฟิล์มปรอท
เป็นฟิล์มสำหรับลดความร้อนภายในห้องโดยสารโดยเฉพาะ บางตัวสามารถกันได้มากถึง 90 % วิธีสังเกตรถยนต์ที่ติดฟิล์มปรอท จะมองตอนกลางวันจากภายนอกเข้าไปที่รถยนต์ จะพบว่า กระจกมีลักษณะคล้ายสายรุ้งสีต่างๆ แต่ไม่สามารถมองเข้าไปในตัวห้องโดยสารได้เลย
พิล์มนิรภัย
ชื่อก็บอกอยุ่ว่านิรภัย คือการป้องกันการแตกร้าวของกระจก และมีแบบทนความร้อน กับไม่ทันความร้อน มีความหนาอยู่ที่ 4 MIL ขึ้นไป แต่ก่อนนิยมเป็นอย่างมากที่จะใช้ในอาคารตึกสูงๆ แต่ปัจจุบันนำมาใช้ประกอบกับหน้าจอมือถือ และ กระจกหน้ารถยนต์ กันเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ฟิล์มอินฟราเรด
ฟิล์มแบบพิเศษที่มีความสามารถไปตัดรังสีอินฟราเรดได้ ทำให้คุณสมบัติหลักกันความร้อนได้ดีเยี่ยม แต่มีราคาที่สูงตามขึ้นไป
ฟิล์มใสประเภทนาโน
เป็นฟิล์มแบบใหม่ แต่ด้วยลักษณะที่ใส แต่ลดความร้อนในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญแสงส่องผ่านมากถึง 60 % หรืออาจมากกว่านี้ ไม่มีเงาสะท้อน ที่สำคัญมีราคาแพง
ทั้งนี้การใช้เลือกใช้ฟิล์มจริงๆ ควรจำไว้ว่าฟิล์มกรองแสงที่ดีไม่ใช่ฟิล์มที่ช่วยลดแสงจ้าได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความสามารถในการสะท้อนแสงอาทิตย์ได้ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายในการขับขี่ และควรคำนึงถึง งบประมาณ และความจำเป็นของคนขับเป็นหลัก ใช้รถยนต์บ่อยแค่ไหน ขับรถยนต์ช่วงไหนเป็นหลักเพราะ ราคาของฟิล์มติดรถยนต์มีความแตกต่างกันในเรื่องราคา แบบถูกๆ ก็หลักร้อย แบบดีๆ ก็โดดไปเป็นหลายหมื่นกันเลยทีเดียว
โอ้โหติดฟิล์มกระจกกันหลักหมื่นขนาดนี้ ต้องมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้คอยดูแลแล้วหรือเปล่า ไม่งั้นถ้าเกิดกระจกเป็นรอยจากการโดนหินดีด หรือเหตุการณ์อื่น ๆ โดยที่ไม่มีประกันคุ้มครอง เราจะต้องเปลื่อนใหม่เองทั้งหมด ไม่มีคนช่วยดูแลเลย งั้นวันนี้เอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์ มีตัวเลือกดี ๆ มานำเสนอ ตั้งแต่ข้อเสนอผ่อน 0% นาน 10 เดือน และยังมีส่วนลดสูงสุดถึง 70% อีก รับประกันถูกกว่าซื้อเองแน่นอน ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปเปรียบเทียบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://asiadirect.co.th/ หรือ 02-089-2000
Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ