รอบรู้เรื่องประกันรถ

Super Car คืออะไร แตกต่างอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับ Sport Car

ผู้เขียน : คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริดกว่า 7 ปี ผู้พยายามเข้าใจมักเกิ้ล นิยมชมชอบกลางคืน สามารถผูกมิตรได้ด้วยของกินอร่อยๆ ตอนนี้กำลังหลบลี้หนีภัยจากออฟฟิศซินโดรมอยู่

Published January 18, 2024
Supercar

เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านยานยนต์กำลังก้าวหน้าอย่างมาก ถึงขั้นที่โลกเราผลิต Super Car ได้หลายรูปแบบ รวมถึงรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% แต่ยังคงประสิทธิภาพความแรงตามสไตล์ Super Car ไว้ได้ก็มีให้ได้เห็นกันมาหลายรุ่นแล้ว แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความต่างระหว่าง Super Car กับ Sport Car ว่าแตกต่างกันอย่างไร เพราะรูปลักษณ์ภายนอกอาจดูคล้ายกัน ไปในแนวทางเดียวกัน ต้องแยกแยะด้วยอะไรถึงจะมองเห็นความต่าง อีกทั้งยุคหลัง ๆ ยังมีคำว่า Hyper Car ปรากฏเพิ่มขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้เกิดความสับสนในการจำแนกมากขึ้น ดังนั้นวันนี้ เอเชียไดเร็ค จึงพร้อมที่จะช่วยคลายข้อสงสัยทั้งหมดได้อย่างชัดเจน!

 

Super Car คือ อะไร

Super Car คือ รถที่มีประสิทธิภาพสูง หรือมักถูกเรียกอีกอย่างว่า Exotic Car มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ที่แรงดุดัน Super Car ใช้งานได้ทั้งบนสนามแข่ง และท้องถนนทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีความเร็ว 0-100 ต่ำกว่า 4 วินาที และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 300 กิโลมเตรต่อชั่วโมงกันเลยทีเดียว 

 

ตัวอย่าง Super Car รุ่นดัง คือ McLaren 765lt วิ่ง 0-100 ในเวลา 2.8 วินาที (ราคาประมาณ 60 ล้านบาท), Lamborghini Huracan STO วิ่ง 0-100 ในเวลา 3 วินาที (ราคาประมาณ 30 ล้านบาท) และ Porche 911 วิ่ง 0-100 ในเวลา 3.5 วินาที (ราคาเริ่มต้น 9.9-22 ล้านบาท) นอกเหนือจากตัวอย่างแบรนด์ไฮเอนด์ที่เราแนะนำไป รถยนต์แบรนด์ดังในตลาดก็มี Super Car ประจำค่ายของตัวเช่นกัน โดยเฉพาะ BMW, Benz, Nissan, Ford, Honda และอื่น ๆ

 

Sport Car คือ อะไร

Sport Car คือ รถยนต์ที่มีลักษณะภายนอกค่อนคล้ายกันกับ Super Car เพียงแต่จะมีการออกแบบให้เหมาะสมกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันมากกว่า Super Car นั่นเอง โดยเครื่องยนต์อาจไม่แรงเท่า แต่ก็สามารถขับเคลื่อนได้คล่องตัวกว่ารถยนต์ทั่วไป พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้นช่วยเหลือการขับขี่ให้สะดวกสบาย และมีความล้ำสมัยกับการดีไซน์ภายในที่โดดเด่นเป็นพิเศษ

 

ตัวอย่าง Sport Car รุ่นดัง คือ BMW M4 Coupe ราคาประมาณ 7-10 ล้านบาท, Subaru BRZ ราคา 2.8 ล้านบาท, Toyota GR Supra ราคา 5.2 ล้านบาท และ Porche 718 ราคา 5.79 ล้านบาท ซึ่งดูรวม ๆ เรื่องราคาแล้วจะเข้าถึงง่ายกว่า Super Car ค่อนข้างหลายระดับเช่นกัน เนื่องด้วยการออกแบบให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีกว่า ไม่เน้นเรื่องพละกำลังเครื่องยนต์อย่างดุดัน ทำให้ราคาเอื้อมถึงง่ายนั่นเอง

 

Super Car แตกต่างอย่างไรกับ Sport Car

ทีนี้ลองมาดูกันหน่อยว่าระหว่าง Super Car และ Sport Car ที่เพิ่งทำความรู้จักไปในด้านบน แตกต่างกันอย่างไร โดยเราจะแบ่งความแตกประมาณ 7 เรื่อง คือ ราคาของตัวรถ, ประสิทธิภาพเครื่องยนต์, สมรรถนะภาพรวม, วัสดุการประกอบรถ, Aerodynamics, Production numbers และ ความยากง่ายในการหาซื้อรถประเภทนั้น ๆ ซึ่งหากเปรียบเทียบข้อมูลทั้งหมดระหว่าง Super Car และ Sport Car จะได้ผลลัพธ์ดังตารางต่อไปนี้

 

ข้อเปรียบเทียบ Super Car Sport Car
ราคาของตัวรถ ราคาค่อนไปทางสูงมาก ราคากลาง-สูง
ประสิทธิภาพเครื่องยนต์

ทรงพลังอย่างมาก

(เฉลี่ยวิ่ง 0-100 ต่ำกว่า 4 วินาที)

ทรงพลังในระดับหนึ่ง
สมรรถนะภาพรวม สูงมาก สูง
วัสดุการประกอบรถ เน้นน้ำหนักเบา เน้นน้ำหนักเบา
Aerodynamics ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม
Production numbers มีความ Limited เป็นส่วนใหญ่ มีการผลิตเป็นจำนวนมาก
ความยากง่ายในการหาซื้อ หาซื้อค่อนข้างยากมาก หาซื้อได้ทั่วไป

 

เท่านี้ทุกคนคงเข้าใจความต่างระหว่าง Super Car และ Sport Car กันไปแล้ว ซึ่งหากสรุปแบบง่าย ๆ คือ Super Car จะเน้นเรื่องประสิทธิภาพเครื่องยนต์เป็นหลัก ให้มีขุมกำลังที่มหาศาล ส่วน Sport Car จะเน้นการใช้งาน มีประสิทธิภาพที่สูงระดับหนึ่ง เพื่อให้การขับขี่คล่องตัว

 

Supercar คือ

 

Hyper Car คืออะไร

Hyper Car คือ อีกระดับขั้นของรถยนต์ Super Car ที่มีความลิมิเต็ดมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะผลิตมาอย่างจำนวนจำกัดมาก ๆ แถมยังมีราคาเริ่มต้นที่สูงถึง 35 ล้านบาทเลยด้วย โดยเฉพาะบางรุ่นที่มีการผลิตออกมาให้แรงกว่า Super Car ที่อยู่ในไลน์ผลิตปัจจุบัน ซึ่งถ้าเทียบจริง ๆ สามารถนำไปใช้แข่งในสนามได้แบบสบาย ๆ ดังนั้นหากได้ยินคำนี้แปลว่านี่คือสุดยอดรถยนต์ที่ทั้งเร็ว แรง แพง และเท่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน

 

ตัวอย่าง Hyper Car รุ่นดัง คือ Bugatti Bolide ทำความเร็วได้สูงสุด 498 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (มีเพียง 40 คันทั่วโลก), Koenigsegg Jesko Absolut ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 531 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ SSC Tuatara ทำความเร็วสูงสุดได้ 532 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (มีเพียง 100 คันทั่วโลก) ทั้งลิมิเต็ด และแรงจนน่าตกใจทั้งราคา และความเร็วที่ได้เห็นกันไป

 

ความต่างระหว่าง Super Car กับ Hyper Car

หลังจากได้ลองเปรียบเทียบ Super Car กับ Sport Car ไปแล้ว คราวนี้ลองเอามาเปรียบเทียบกับ Hyper Car ดูบ้างว่าพอจะแยกแยะได้อย่างไร ซึ่งเกณฑ์ที่เราจะเอามาใช้แยกมีทั้งหมด 4 เรื่องด้วยกัน คือ ราคาของตัวรถยนต์, จำนวนที่ผลิต, ความเร็วที่สามารถทำได้ และประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ โดยการเปรียบเทียบเบื้องต้นตามข้อมูลชุดนี้ จะสามารถดูได้จากตารางด้านล่าง

 

ข้อเปรียบเทียบ Super Car Hyper Car
ราคาของตัวรถยนต์ ราคาเริ่มต้น

ประมาณ 3-5 ล้านบาท

ราคาเริ่มต้น

ประมาณ 30-35 ล้านบาท

จำนวนที่ผลิต ผลิตออกมาตามแผนการผลิต ผลิตออกมาแบบจำนวนจำกัด
ความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้ ไม่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ต่ำกว่า 386 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ มีสมรรถนะที่สูงมาก สมรรถนะสูงมากเป็นพิเศษ

ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด

เพื่อเพิ่มความเร็วและแรง

 

ถ้าพูดว่า Super Car นั้นสามารถวิ่งได้เร็วมาก ๆ แล้ว ก็ต้องยอมให้ Hyper Car ที่วิ่งเร็วได้มากกว่านั้นไปก่อน ทั้งราคาแพง ประกอบจำนวนจำกัด เทคโนโลยีแบบเต็มพิกัด จึงทำให้เรามีโอกาสได้เห็นยากมากกว่าหลายเท่าตัวเช่นกัน

 

Hypercar

 

อยากทำประกันรถชั้น 1 ให้ Super Car Sport Car หรือ Hyper Car ได้ไหม

เบื้องต้นการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สามารถทำให้กับรถยนต์ Super Car และ Sport Car ได้อย่างไร้ปัญหา แต่อาจมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย โดยเฉพาะเรื่องของค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างจากรถยนต์ธรรมดา หรือรถหรูทั่วไป เนื่องด้วย Super Car นั้นเป็นรถยนต์ที่นำเข้ามา ทำให้มีอะไหล่และค่าบำรุงรักษาที่สูงมาก ในทางเดียวกัน Sport Car บางรุ่นที่ไม่อยู่เกณฑ์ จะถูกจัดเป็นหมวดรถหรูธรรมดา ทำให้มีค่าเบี้ยประกันต่ำกว่า Super Car ได้ และ Hyper Car ยิ่งไม่ต้องพูดถึง จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงมากขึ้นไปทำตามทุนประกันแน่นอน ดังนั้นก่อนทำประกันรถยนต์ Super Car อย่าลืมเช็กกับบริษัทที่เราสนใจอีกทีหนึ่ง

 

เกณฑ์การพิจารณาประกันรถยนต์ Super Car

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาเพื่อทำประกันรถยนต์ Super Car จะมีด้วยกันประมาณ 7 ข้อ คือ เรื่องจำนวนประตู, ขนาดเครื่องยนต์, กำลังเครื่องยนต์, น้ำหนักรถยนต์, อัตราการเร่ง 0-100, ความเร็วสูงสุด และราคาขายปีแรกจากผู้จัดจำหน่าย ซึ่งตัวเลขที่ชัดเจนสำหรับกฎเกณฑ์ในการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะมีดังลิสต์รายการต่อไปนี้

  • จำนวนประตู ต้องมีน้อยกว่า 4 ประตู
  • ขนาดเครื่องยนต์ ตั้งแต่ 2,000 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป
  • กำลังเครื่องยนต์ ต้องมี 250 แรงม้าขึ้นไป
  • น้ำหนักรถยนต์ ต้องน้อยกว่า 2,000 กิโลกรัมลงไป
  • อัตราการเร่ง 0-100 ต้องเป็นภายใน 5 วินาทีหรือน้อยกว่าเท่านั้น
  • ความเร็วสูงสุด ต้องอยู่ในช่วง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
  • ราคาขายปีแรกจากผู้จัดจำหน่าย ต้องมีราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

หากเราดูคร่าว ๆ เกี่ยวกับเกณฑ์ด้านบน และเทียบกับประสิทธิภาพรถยนต์ Super Car ที่เราเพิ่งได้นำเสนอไป อย่างไรก็คิดว่ารถยนต์ตัวแรงประเภทดังกล่าวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 จะสามารถผ่านเกณฑ์ และทำประกันชั้น 1 สำหรับรถยนต์ประเภทนี้ได้อย่างสบาย ๆ แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และโปรโมชันของบริษัทประกันที่คุณสนใจ ว่าจะเลือกทำที่ไหนถึงจะคุ้มค่าการใช้งาน

ดังนั้น เอเชียไดเร็ค ขออนุญาตแนะนำประกันรถชั้น 1 สำหรับคุณเจ้าของ Super Car ให้เข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-089-2000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะติดต่อสะดวกสบายผ่านไลน์แอดที่ @asiadirect ได้เช่นกัน เรามีบริการดูแลรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง, มีรถให้ใช้ทดแทน, การันตีราคาคุ้มค่า, มีชดเชยค่าเดินทางกลับบ้านเมื่อรถเสียขับต่อไม่ได้ และอื่น ๆ อีกเพียบ!

บทความรอบรู้เรื่องประกันรถ
Rabbit Care Blog Image 1030

รอบรู้เรื่องประกันรถ

วิธีโอนรถเปลี่ยนเจ้าของครบทุกขั้นตอน พร้อมบอกรายการเอกสารใช้โอนรถทั้งหมด

สำหรับคนที่มีความต้องการซื้อขายรถมือสอง ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการโอนรถอย่างละเอียดไว้ก่อน
คะน้าใบเขียว
clock icon16/01/2024
Rabbit Care Blog Image 1043

รอบรู้เรื่องประกันรถ

แนะนำวิธีการจองทะเบียนรถ กรมขนส่ง ผ่านระบบออนไลน์แบบง่ายในพริบตา

ปีใหม่กำลังจะเข้ามาแบบนี้ หลายคนอาจมีแผนออกรถใหม่ และต้องการจองทะเบียนรถ กรมขนส่งเพื่อให้ได้เลขที่เราต้องการ
คะน้าใบเขียว
clock icon09/01/2024
Rabbit Care Blog Image 989

รอบรู้เรื่องประกันรถ

ตอบข้อสงสัยว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง และไม่คุ้มครองอะไรบ้าง

เนื่องด้วยตัวเลือกประกันรถยนต์นั้นมีค่อนข้างเยอะมาก บางคนอาจสงสัยว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง เพราะในรายละเอียดที่เคยได้ยินผ่าน ๆ
คะน้าใบเขียว
clock icon07/12/2023