หมดปัญหารถดับกลางทาง! 5 ข้อที่จะช่วยดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ
สวัสดีครับเพื่อนๆ เราว่าทุกคนทราบดีใช่มั้ยครับว่าเราควรตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนออกรถทุกครั้ง แต่เอาเข้าจริงๆ มีใครทำแบบนั้นทุกครั้งที่ใช้รถหรือเปล่า เราว่าไม่ทำแน่นอน ทำให้เราเจอปัญหารถตายกลางทางกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะเวลาแบตเตอรี่รถยนต์หมดเนี่ย เซ็งสุด ๆ ไปเลย ต้องรอให้มีรถใจดีมาจั๊มป์แบตเตอรี่รถยนต์ให้เราสตาร์ทต่อได้ ถ้าอยู่ในที่คุ้นเคยก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าแบตเตอรี่รถยนต์หมดระหว่างเดินทางไกล หรืออยู่ในที่ไม่ค่อยมีคนล่ะก็ ลำบากน่าดูเหมือนกันนะครับ
วันนี้เราเลยเอาเคล็ดลับดีๆ 5 ข้อมาฝากกันครับ ทิปส์พวกนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจปัญหาของแบตเตอรี่รถยนต์และรักษาอายุของแบตเตอรี่รถยนต์ให้เราใช้ได้นานๆ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1. รู้ปัญหา
เมื่อก่อนสัญญาณที่บอกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของเราหมด คือเครื่องช้า และไฟหน้าปัดอ่อนลง แต่ปัจจุบัน รถทุกคันจะมีไฟสัญญาณบอกอยู่แล้วว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของเราต้องเช็ค หรือว่าใกล้หมดครับ ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ สงสัยว่าแบตเตอรี่รถยนต์เรามีปัญหา ก็อาจจะลองเช็คด้วยตัวเองได้อีกทาง โดยการเปิดกระโปรงหน้า และดูว่าแบตเตอรี่รถยนต์มีบวมออกมา หรือมีร่องรอยเสียดสี บ้างหรือปล่าว เพราะอาการพวกนี้จะทำให้เห็นว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์แล้วครับ
2. หาสาเหตุปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์ก่อนเปลี่ยนหรือชาร์ตใหม่
ปกติ ปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์จะเกิดจากการเปิดไฟทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟในรถ หรือวิทยุครับ หรือถ้าเพื่อน ๆ อยู่ในที่อากาศหนาว และจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์มีปัญหาเช่นกัน เพราะว่าแบตเตอรี่รถยนต์จะสูญเสียกำลังไฟประมาณ 33% ถ้าอากาศหนาวมาก และอาจจะมากกว่า 50% ถ้าเจออุณหภูมิติดลบครับ สาเหตุอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ไม่ดี หรืออายุของแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งควรจะหาสาเหตุให้เจอจะได้ไม่เกิดขึ้นอีกนะครับ
3. ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ให้ถูกวิธี
การจั๊มแบตเตอรี่รถยนต์อย่างที่รู้จักกันมีวิธีที่เพื่อน ๆ ควรทำตามให้ถูกต้อง เพื่อกันแบตเตอรี่รถยนต์ของเราเสียหายนะครับ ก่อนอื่น เราต้องหารถอีกคันที่มีแบตเตอรี่รถยนต์ที่ทำงานได้ปกติ จอดรถใกล้กันให้มากที่สุด ต่อสายขั้วบวกกับรถที่มีแบตแล้วค่อยไปต่อรถที่ตาย จากนั้นต่อสายขั้วลบกับรถที่แบตปกติและไปต่อกับรถที่ตาย เมื่อเรียบร้อยแล้วก็สตาร์ทรถที่แบตเตอรี่รถยนต์ปกติ รอสัก 2-3 นาทีค่อยสตาร์ทรถที่แบตเตอรี่รถยนต์หมด เมื่อติดแล้วปล่อยให้เครื่องรันไปสัก 3-5 นาทีเพื่อให้แบตเตอรี่รถยนต์ชาร์จได้ แล้วค่อยเอาสายออกครับ
4. ดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์เป็นประจำ
การดูแลรักษาเป็นประจำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ได้อย่างดี เพื่อน ๆ ลองขอให้เช็คการทำงานของแบตเตอรี่รถยนต์ทุกครั้งที่เข้าศูนย์หรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนะครับ ตรวจเช็คขั้วแบตเตอรี่รถยนต์และทำความสะอาดถ้าจำเป็น โดยเฉพาะถ้าเพื่อน ๆ ไม่ได้ขับนาน ก็อาจจะลองซื้อที่ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไว้ เพื่อเตรียมพร้อมครับ
5. หาศูนย์เช็คสภาพรถที่เราไว้ใจได้
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหารถยนต์ของเราก็คือการมีศูนย์เช็คสภาพรถหรืออู่ซ่อมรถดี ๆ ที่เราไว้ใจให้ดูแลรถเราได้ครับ เพราะว่าทีมที่มีประสบการณ์และมืออาชีพจะช่วยดูแลรถของเราไม่ให้เกิดปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างแบตเตอรี่รถยนต์หมด หรือปัญหายาก ๆ ก็ตาม เพราะฉะนั้น ถ้าศูนย์ที่เราซ่อมอยู่ดูแลไม่ละเอียด ก็ลองหาที่ใหม่ดูนะครับ
หวังว่าเพื่อนๆ อ่านแล้วจะได้รู้จักและสนใจเจ้าแบตเตอรี่รถยนต์ในกระโปรงหน้าของเรามากขึ้นนะครับ แบตเตอรี่รถยนต์เป็นส่วนสำคัญของรถที่เราต้องดูแลอย่างดี ยังไงอ่านแล้วก็อย่าลืมทำตามนะครับ อีกวิธีดูแลรถยนต์ที่ช่วยดูแลความเสี่ยงของเงินในกระเป๋าเราด้วย ก็คือ การทำประกันรถยนต์นั่นเองครับ เพื่อน ๆ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถแบบต่างๆ ที่เหมาะกับการใช้รถของเราได้ในเว็บไซต์เอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์ที่ https://asiadirect.co.th/ หรือ 02-089-2000
Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ