ดูแลยานยนต์

6 สิ่งควรทำเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ขับรถลุยน้ำท่วม

ผู้เขียน : korkong

Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ

Published February 16, 2023
การขับรถลุยน้ำท่วม

เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องมีความระมัดระวังกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถยนต์ ช่วงนี้หลายคนคงต้องเผชิญสภาวะปัญหาน้ำท่วมขังบนท้องถนน ทำให้การขับนั้นยากลำบากมากยิ่งขึ้น แถมยังเสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของเรา วันนี้ เอเชียไดเร็ค นำวิธีการขับรถในช่วงหน้าฝนน้ำท่วมมาฝากทุกๆคนค่ะ

1. เลือกช่องทางเดินรถที่มีน้ำท่วมขังต่ำที่สุด

หากสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังได้ ก็แนะนำให้เลี่ยงไปเส้นทางอื่นจะดีกว่า แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ให้เลือกช่องจราจรที่มีน้ำท่วมขังในระดับต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นการลดโอกาสที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับตัวรถและเครื่องยนต์ หากรถหยุดนิ่งเนื่องจากสภาพจราจรติดขัด ให้ทำใจเย็นๆเข้าไว้ ไม่ต้องเปลี่ยนไปยังเลนที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่า ตราบใดที่เครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่ น้ำจะไม่มีโอกาสเข้าทางท่อไอเสียเครื่องยนต์อย่างแน่นอน

2. เมื่อรถดับขณะลุยน้ำท่วมห้ามสต๊าทเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด

การที่รถดับขณะฝ่าน้ำท่วม ต้องเข้าใจได้เลยว่าน้ำได้ไหลเข้าสู่ห้องเครื่องของรถคุณเรียบร้อยแล้ว วิธีที่สามารถแก้ไข ได้ง่ายที่สุดคือ ห้ามติดเครื่องยนต์ แล้วก็เป็นหน้าที่ที่คุณ ที่ต้องเสียสละลงไปเข็นรถให้อยู่ในจุดที่มีความปลอดภัย ห่างไกลจากบริเวณน้ำท่วม หรือ จะโทรเรียกศูนย์ประกันภัยรถยนต์ มารับรถคุณเพื่อไปซ่อมศูนย์ก็ได้

3. ปิดแอร์ทันทีเมื่อระดับน้ำขึ้นสูง

ขณะขับรถลุยน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเริ่มขึ้นสูง ให้รีบปิดแอร์ในทันทีเพื่อตัดการทำงานของพัดลมแอร์ เนื่องจากใบพัดอาจหมุนกระแทกเข้ากับน้ำด้วยความรุนแรงจนเป็นสาเหตุให้แตกหรือหักได้ ให้สังเกตว่าหากระดับน้ำเริ่มแตะใต้ท้องรถเมื่อไหร่ ให้รีบปิดแอร์ในทันที แต่หากเริ่มปิดตั้งแต่เริ่มลุยน้ำได้ก็จะดีมาก

4. หากขับรถลุยบริเวณน้ำท่วมได้แล้ว ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที

ในกรณีนี้อาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักของท่อไอเสีย ฉะนั้นควรติดเครื่องยนต์ไว้ก่อน เพื่อให้ความร้อนของเครื่อง ทำให้น้ำในหม้อพักระเหยออกมาจนหมด สังเกตได้จากบริเวณท่อไอเสีย จะมีควันก็มาก็ไม่ต้องตกใจหรือวิตกกังวล หากไม่ทำเช่นนี้ในระยะยาวหม้อพักรถของคุณจะผุพังเอาได้

5. ใช้ความเร็วต่ำที่สุดขณะลุยน้ำ

การขับรถลุยน้ำให้ใช้ความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการใช้ความเร็วสูงเกินไป จะทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลหลั่งเข้ามาในห้องเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้ท่วมถึงระดับหม้อกรองอากาศ และถูกดูดเข้าไปยังห้องเผาไหม้ จนเป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์น็อคเนื่องจากก้านสูบคดหรือหักได้

6. ห้ามเร่งเครื่องยนต์

หลายคนเข้าใจผิดว่าการขับรถลุยน้ำท่วมต้องเร่งเครื่องยนต์ให้รอบขึ้นสูงเพื่อป้องกันรถดับ แต่ความคิดนี้เป็นความคิดที่ผิด เพราะการเร่งเครื่องยนต์ขึ้นสูงนอกจากจะไม่มีประโยชน์ใดๆแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์มีแรงดูดอากาศเข้าไปยังห้องเผาไหม้มากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงที่น้ำจะถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์มากขึ้นด้วย

วิธีเหล่านี้เป็นเทคนิคง่ายๆ ในการลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถและเครื่องยนต์  หากคราวหน้าคุณจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ ก็อย่าลืมนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้กัน เพื่อให้ใช้รถบนถนนด้วยความปลอดภัย และทางที่ดีเอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์แนะนำว่าควรเพิ่มประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ด้วย เพราะบางกรณีที่เราต้องเจอน้ำท่วมบนท้องถนนแบบกระทันหัน ประกันจะสามารถคุ้มครองรถเราได้นั่นเอง อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปดูได้ที่ https://asiadirect.co.th/ หรือโทร 02-089-2000

บทความดูแลยานยนต์
Rabbit Care Blog Image 1051
ดูแลยานยนต์

ถุงลมนิรภัย คือ อะไร ใช้งานเมื่อไหร่ ต้องเปลี่ยนไหม แล้วมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

จุดเริ่มต้นของถุงลมนิรภัยเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1971 ที่ทางบริษัทฟอร์ดได้สร้างรุ่นทดลองขึ้นมาวิจัย
คะน้าใบเขียว
clock icon01/02/2024
Rabbit Care Blog Image 1047
ดูแลยานยนต์

Crossover คือ รถอะไร แล้วมีความแตกต่างจากประเภทอื่นอย่างไรบ้าง

พอพูดถึงประเภทรถยนต์ที่คุ้นหูในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นรถ SUV, Sedan, Hatchback หรือ Crossover อย่างแน่นอน ซึ่ง 3 ประเภทแรกที่เรากล่าวมา มันก็มีความชัดเจนอยู่แล้วภายใต้ชื่อรุ่น
คะน้าใบเขียว
clock icon30/01/2024
Rabbit Care Blog Image 1024
ดูแลยานยนต์

ไฟตัดหมอกมีความสำคัญอย่างไร และแยกออกเป็นกี่ประเภท

โดยปกติแล้วคนที่ซื้อรถยนต์ในปัจจุบันจะมีไฟตัดหมอกติดตั้งมาให้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เพียงแต่บางคนอาจไม่ทราบข้อมูลอย่างแท้จริงว่าไฟตัดหมอก คือ อะไร
คะน้าใบเขียว
clock icon25/01/2024