เรื่องต้องรู้ก่อนเติมลมรถ! เติมลมยางรถยนต์อย่างไรให้เหมาะกับรถแต่ละแบบ?
การดูแลรักษารถยนต์ใช่เพียงเป็นการดูแลเครื่องยนต์หรือการดูแลความสวยงามของรถเท่านั้น แต่การดูแลยางรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยางรถยนต์หรือล้อรถเป็นส่วนที่รับหน้าที่แบกน้ำหนักทั้งหมดไว้
หากละเลยให้ลมยางอ่อนหรือแข็งเกินไปก็จะสงผลเสียกับยางรถยนต์โดยตรง เช่น การสิ้นเปลืองน้ำมัน การทรงตัวยึดเกาะถนน การแบกรับน้ำหนักที่ด้อยประสิทธิภาพ ระบบช่วงล่างเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด รวมถึงคุณภาพของยางที่มีความเสื่อมเร็วกว่าปกติ จึงควรหมั่นตรวจสอบความดันลมอย่างน้อยเดือนละครั้ง สำหรับใครที่ต้องใช้รถทำงานเป็นประจำทุก ๆ วัน ควรหมั่นตรวจให้บ่อยมากกว่า 1 เดือนครั้ง เพื่อป้องกันเหตุยางระเบิดได้
รถเก๋งขนาดเล็ก Eco Car
- ควรเติมลมยางรถยนต์ระหว่าง 25-30 ปอนด์
รถเก๋งขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
- ควรเติมลมยางรถยนต์ระหว่าง 30-35 ปอนด์
รถกระบะ
- ควรเติมลมยางรถยนต์ไม่เกิน 65 ปอนด์
การเติมลมยางรถยนต์หรือการวัดค่าความดัน ควรทำในขณะที่ยางเย็นหรือวิ่งมาไม่เกิน 2 กิโลเมตร เพราะหากทำการเติมลมทันทีในขณะที่ยางรถยนต์พึ่งผ่านการเสียดสีหรือวิ่งมาระยะไกล ๆ จะทำให้ยางมีความร้อนอากาศภายในยางขยายตัวมีแรงดันที่เพิ่มมากขึ้นจึงควรหยุดรอให้ล้อรถมีความเย็น จึงค่อยเติมลมได้ตามปกติ
หากจำเป็นที่ต้องเติมลมในขณะที่ยางรถยนต์มีความร้อนจำเป็นต้องมีเครื่องตรวจวัดแรงดันจึงจะเติมได้สามารถเติมได้เพียงแค่ 2 ปอนด์เท่านั้น เพื่อชดเชยความดันในล้อที่ลดลงหลังจากรถยนต์ได้หยุดพักเครื่องยนต์เย็นและล้อเย็นปกติ จึงเติมลมยางได้ตามปกติ และบ่อยครั้งที่ผู้ใช้รถต้องประสบเหตุการณ์ยางระเบิดบนทางด่าน
ข้อดีของการทำประกันภัยรถยนต์กับ เอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์ อีกอย่างก็คือ จะได้รับความช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ในเวลาที่ยางระเบิดด้วย เช่น บริการช่วยเหลือเปลี่ยนยาง หรือ บริการรถลากจูงเป็นต้น
กรณีที่เราทำประกัน ชั้น1 สามารถครอบคลุมเรื่องยางแตกได้อีกด้วย เราสามารถเรียกประกันมาเคลมได้ทันทีที่ยางแตก เปลี่ยนยางเส้นใหม่กันไปได้เลย สอบถามรายละเอียดประกันภัยรถยนต์ ทุกชนิดได้ที่ https://asiadirect.co.th/ หรือ 02-089-2000
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Asia Direct และ Rabbit Care
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต