สรุปขั้นตอนการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกต้อง และข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อน!

รถยนต์ทุกชนิดจำเป็นต้องมีแบตเตอรี่รถยนต์ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จัดเก็บและจ่ายกระแสไฟฟ้าของรถยนต์ ซึ่งบางครั้งเราก็มักประสบปัญหาเครื่องยนต์ดับและสตาร์ทไม่ติดในระหว่างการขับรถยนต์ นั่นเป็นเพราะแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณอาจจะเสื่อมสภาพ วิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็คือ การพ่วงแบตเตอรี่เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้ตามปกติในระยะเวลาสั้น​ ​ๆ ก่อนนำรถไปตรวจสอบ และการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์อย่างไม่ถูกวิธี​นั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งมีวิธีการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกต้องดังนี้

การเลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์

1. ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่ได้มาตรฐาน 

มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม​และผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย

1. เลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานของรถแต่ละรุ่น 

โดยมีขนาดแอมแปร์เท่ากับ​ห​รือมากกว่าที่ติดมากับรถยนต์

1. ​มีความจุไฟฟ้าเหมาะสมกับปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าของรถ 

หากมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น เครื่องเสียง ให้ใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมแปร์สูงขึ้น

ขั้นตอนการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

1. ปิดสวิตช์และอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดของรถ
2. นำรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติมาจอดใกล้ๆ เพื่อต่อสายพ่วงแบตเตอรี่
3. นำสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วบวก (สีแดง) ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถคันที่แบตเตอรี่หมดก่อน แล้วมาต่อกับรถที่มาช่วย
4. นำสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วลบ (สีดำ) ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วลบของรถคันที่มาช่วย อีกฟากให้หนีบที่โลหะในเครื่องยนต์ เป็นการสร้างระบบกราวนด์ของแบตเตอรี่
5. สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่มีแบตเตอรี่ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วเร่งเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อให้แบตเตอรี่มีการไหลเวียนของประจุไฟฟ้า
6. สตาร์ทเครื่องยนต์รถคันที่แบตเตอรี่หมด พร้อมเร่งเครื่องในอัตรา 1,500–2,000 รอบต่อนาที เพื่อตรวจสอบว่ามีประจุไฟฟ้าเข้าหลังจากการชาร์จไฟแบตเตอรี่หรือไม่ เพียงแค่นี้รถคันที่แบตเตอรี่หมดก็สามารถสตาร์ทติดได้แล้ว
7. ถอดสายพ่วงรถคันที่แบตเตอรี่หมดและถอดสายพ่วงรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติออก

ข้อควรระวังในการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

1. ไม่สตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดระบบไฟของรถทั้งสองคัน เพราะจะทำให้เกิดประกายไฟ ส่งผลให้เกิดการระเบิดได้
2. ไม่ต่อสายพ่วงเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่ของรถคันที่แบตเตอรี่หมด เพื่อป้องกันแบตเตอรี่ระเบิด
3. ห้ามสูบบุหรี่ จุดไฟแช็ก หรือก่อให้เกิดประกายไฟ เพราะในขณะต่อสายพ่วงแบตเตอรี่จะมีแก๊สบริเวณดังกล่าว ทำให้เกิดการระเบิดได้
4. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตาและถุงมือทุกครั้งที่สัมผัสแบตเตอรี่ เพราะน้ำกรดในแบตเตอรี่เป็นสารกัดกร่อน  ทำให้ได้รับอันตรายได้
5. ระมัดระวังไม่ให้แบตเตอรี่เอียงหรือตะแคง เพราะน้ำกรดอาจรั่วไหลออกมาทางรูระบาย ก่อให้เกิดอันตรายได้
6. ระมัดระวังไม่ให้ปลายสายพ่วงแบตเตอรี่สัมผัสกัน เพราะจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร

ถึงแม้ว่าการพ่วงแบตเตอรี่จะสามารถทำเองได้ แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เพราะหากมีประกายไฟจะทำให้เกิดการระเบิดได้ อย่างไรก็ตามตัวเราควรระมัดระวังและหมั่นตรวจสอบดูแลรถยนต์ของคุณอยู่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะภายนอกหรือภายใน และเพิ่มเติมอีกนิดให้อุ่นใจ กับการคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ชั้นนำที่เอเชียไดเร็ค โบรคเกอร์ อยากแนะนำให้ทุกคนพิจารณาเพิ่มเติม สามารถผ่อน 0% ได้นานถึง 10 เดือน รับประกันว่าคุ้มค่ากว่าซื้อเองแน่นอน อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม เข้าไปดูได้เลยที่ https://asiadirect.co.th/ หรือ 02-089-2000

korkong

Writer ที่อยากเขียนทุกเรื่องราวบนโลก เพื่อหวังจะยกระดับความรู้ในสมองให้เติบโตอย่างช้าทีละนิด ชื่นชอบเทคโนโลยี ความสมัยใหม่ พร้อมอัปเดตทุกอย่างให้โลกได้รู้ผ่านสมองและสองมือ